เมื่อครั้งฤดูฝนปี 2563 บ้านห้วยสำราญ หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับอุดรธานี แหล่งปลูก “ดอกเบญจมาศ” ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับห้วยสำราญ ได้รับการสนับสนุนจาก สนง.พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) , มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และจังหวัดอุดรธานี ปลูกดอกปทุมมา หรือดอกกระเจียว ทั้งแปลงเพื่อท่องเที่ยว (ริมอ่างฯลำปลาค้าว) , แปลงเพื่อตัดดอก และแปลงเพาะขยายพันธุ์ ในช่วงฤดูฝนที่ “ดอกเบญจมาศ” ดูแลยากต้องใช้ต้นทุนสูง
ผ่านมาถึงวันนี้….หลังต้องสู้กับสถานการณ์โควิด-19 “แปลงปทุมมา” ถูกย้ายจากริมอ่างฯลำปลาค้าว มาปลูกไว้ที่แปลงดอกไม้ของ นายบุญสม กองทอง อายุ 61 ปี รองประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับห้วยสำราญ บนเนื้อที่ราว 2 ไร่เศษ วางท่อน้ำติดตั้งระบบสปริงเกอร์ และยังอยู่ติดถนนราดยางระหว่างหมู่บ้าน มีแปลงปลูกปทุมมาแบบยกร่อง เหมือนกับปลูกเบญจมาศ โดยไม่ต้องปักเสาค้ำต้นป้องกันต้นและดอกล้ม
แปลงปลูกปทุมมา เป็นแบบผสมผสานทั้งตัดดอก และเก็บหัวพันธุ์ แยกเป็นกลุ่ม 2 สายพันธุ์ กลุ่มแรกเป็นดอกที่มีก้านยาว ส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ “แดงชาโด้” , “ลานนาสโนว์” และ “ห้วยสำราญ” จากนั้นเป็นดอกหงส์เหิน หรือดอกเข้าพรรษา แยกเป็นสีชมพู-ขาว-สลับสี ตามด้วยกลุ่มดอกก้านสั้น ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ และมีสดใสสดุดตา กลุ่มนี้เริ่มออกดอกมาระยะหนึ่งแล้ว และปิดท้ายด้วยที่แปลงปลูกไม่นาน จะออกดอกในราวเดือนตุลาคมนี้
นายบุญสม กองทอง เล่าว่า กลุ่มฯยังคงดูแลรับผิดชอบ “แปลงปทุมมา” ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นพัฒนา โดยมีคณาจารย์จาก สวทช. , ม.แม่โจ้ มาติดตามต่อเนื่อง เริ่มจากปีแรกเราปลูกที่ “ริมอ่างฯลำปลาค้าว” พบกับปัญหาเกษตรกรมือใหม่ (เคยปลูกแต่เบญจมาศ) ปัญหาคุณภาพดิน รวมไปถึงโควิด-19 เก็บค่าเข้าชมได้ 10,000 บาท ขณะการเก็บหัวพันธุ์ในปีแรก ก็พบปัญหาโรคพืช ความไม่เหมาะพื้นที่ และตัวเกษตรกรเอง ทำให้มีสายพันธุ์เก็บไม่ได้ อาทิ ยูคิ , วัลดาวัลย์ , ทับทิมสยาม , ทวิตเตอร์ และซากุระ
ต่อมาปี 2564-65 ย้ายมาปลูกในที่ดินแปลงปัจจุบัน เน้นการเข้ามาศึกษา-ฝึกฝน-ดูแล เพื่อสะสมหัวพันธุ์ เตรียมกระจายให้สมาชิกฯ ที่ต้องการนำไปปลูกหารายได้ นอกจากนี้ยังต้องตัดดอก และทำไม้กระถางขาย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายแปลงปลูก ที่เหลือเก็บเข้ากลุ่มฯ ขณะที่ อ.ลิขิต มณีสินธุ์ ได้นำสายพันธุ์ใหม่มาให้ทดลองปลูก หากสายพันธุ์ไหนเหมาะสมปลูกที่นี่ และตลาดต้องการ แนะนำให้สมาชิกกลุ่มฯปลูก เหมือนกับ “เบญจมาศ” แต่ละพันธุ์เราก็ใช้เวลานับสิบปี
มีลูกค้าเก่าของเรา รู้ว่ากลุ่มฯปลูกปทุมมา ก็สอบถามเข้ามา พร้อมมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะดอกสีแดง “แดงชาโด้” และดอกสีขาว “ลานนาสโนว์” วันละ 500-700 ดอกๆละ 2 บาท จะเป็นการเก็บตามคำสั่งซื้อ ตอนนี้มีออร์เดอยาวถึง ต.ค.65 โดยเดือนหน้าจะมีผลผลิตมากขึ้น ผลผลิตทำให้มีรายได้ในฤดูฝน จึงมีสมาชิกแจ้งขอหัวพันธุ์ เพื่อนำไปปลูกขายเช่นกัน ผลผลิตน่าจะเพิ่มขึ้น 4-5 เท่าตัว ส่วนปทุมมากระถาง 3 กระถางร้อย พอขายได้ยังต้องพัฒนาขึ้นอีก
สำหรับงานพืชสวนโลก 14 พ.ย.69-31 มี.ค.70 สมาชิกกลุ่มฯรับรู้เรื่องนี้เบื้องต้น มีการพูดคุยกันไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีแผนงานที่ชัดเจน มีเพียงข้อเสนอของ อ.ลิขิต มณีพันธุ์ จะพยายามให้ปทุมมาออกดอกนอกฤดู เพราะช่วงงานพืชสวนโลก ปทุมมาผ่านการออกดอกไปพอดี หากออกนอกฤดูได้ก็จะเข้าร่วมงานด้วย ……