ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 สำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี แจ้งสถานการณ์โควิด-19 (เอกสาร) ในพื้นที่ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 50 ราย แยกเป็น ตรวจพบจากผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในจังหวัด 9 ราย จากผู้มีอาการเข้าเกณฑ์ PUI ในจังหวัด 3 ราย , จากผู้เดินทางมาจากกรุงเทพ และปริมณฑล 38 ราย โดยเป็นผู้ตรวจพบเชื้อมาก่อน และต้องการจะมารักษาตัวที่บ้าน 7 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 1,080 ราย หายกลับบ้าน 595 ราย รักษาตัวอยู่ 472 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย สะสม 13 ราย
ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย อยู่ในความดูแลของ “เนอร์สซิ่งโฮม” เอกชนในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกนำมาฌาปนกิจ ที่ฌาปนสถาน วัดโพธิสมภรณ์ (อารามหลวง) ห่างจาก รพ.ศูนย์อุดรธานี ไม่ถึง 500 เมตร ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถานที่ฌาปนกิจ ผู้เสียชีวิตด้วยโควิด-19 ของอุดรธานีทุกราย
โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 12 ผู้ป่วยรายที่ 1,042 เป็นหญิง อายุ 87 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง อยู่ระหว่างการสอบสวนควบคุมโรค เบื้องต้นระบุว่าไม่รู้ว่าผู้อยู่ในการดูแล ติดเชื้อโควิด-19 จนมีอาการจึงเข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี 8 ก.ค.64 เสียชีวิต 9 ก.ค.64
ผู้เสียชีวิตรายที่ 13 ผู้ป่วยรายที่ 1,066 เป็นชาย อายุ 61 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง โรคมะเร็งตับ โรคปอด บุตรสาวระบุว่า มารับการดูแลที่นี่ติดต่อกันมา 2 ปี 28 มิ.ย.64 เข้ารักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี รับแจ้งว่าจากโรคประจำตัว ไม่รู้ว่าติดเชื้อวิด-19 เมื่อ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา
ขณะทีมสอบสวนควบคุมโรค เดินทางไปยัง “เนอร์สซิ่งโฮม” ของเอกชนรายดังกล่าว พบผู้ดูแล และผู้ได้รับการดูแลมากกว่า 10 คน จึงทำการสอบสวนโรค พร้อมกับตรวจหาเชื่อด้วยการ “สวอพ” พร้อมมีคำสั่งให้ทุกคนต้องกักตัว อยู่ภายในเนอร์สซิ่งโฮม เพื่อรอผลการตรวจหาเชื้อ ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลกลางดึกคืนนี้….
ในเย็นวันเดียวกันนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี แจ้งการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 19/2564 ให้เข้าร่วมประชุมเพื่อรายงานสถานการณ์ และการดำเนินการเฝ้าระวัง ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เวลา 10.00 น. วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม 2564 ณ ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น 5 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี