พี่เมียตั้งวงก๊งเหล้ากับน้องเขย ไม่พอใจจะเปลี่ยนสกุลลูก จากของภรรยาเป็นของเขย กลับหาว่าดูถูกนามสกุล คว้ามีฟันหัวดับ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ร.ต.อ.กุณช์พิสิษฐ์ ศรีสงคราม รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองหาน ได้รับแจ้งออกไปสอบสวนเหตุชายถูกฟันหัวเสียชีวิต ที่ข้างบ้านเลขที่ 42 บ.โคกสุวรรณ ม.5 ต.หนองสระปลา อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองหาน แพทย์เวร รพ.หนองหาน และอาสากู้ส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จุดบริการ อ.หนองหาน
ที่เกิดเหตุมีบ้านหลายหลังอยู่ในรั้วเดียวกัน ก่อนถึงตัวบ้านเลขที่ 36 ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้เสียชีวิต พบศพนายแสงชัย ปานะ หรือโอ๋ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 2 ม.2 ต.ปงคำ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ สภาพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงวอร์มสีดำ ไม่สวมรองเท้า มีแผลฉกรรจ์ถูกของมีคมฟัน 2 แห่ง ที่หางคิวซ้าย และท้ายทอย ลึกจนเห็นกะโหลก และพบมีดพร้าด้ามไม้ ยาว 45 ซม.
เบื้องต้นรับแจ้งผู้ก่อเหตุชื่อนายสมศักดิ์ นานมา หรือกบ อายุ 49 ปี เป็นพี่ภรรยาของนายโอ๋ฯ ผู้เสียชีวิต ตำรวจชุดสืบสวน ได้ติดตามจับกุมตัวได้ที่กระท่อมนาของลุงนายกบ ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน ก่อนสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง จึงควบคุมตัวมาชี้จุดเกิดเหตุ และนำตัวไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.หนองหาน เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
นายสมศักดิ์ฯ หรือกบ ผู้ก่อเหตุ สารภาพว่า อาศัยอยู่กับนายโอ๋น้องเขย 2 คน แต่แยกไปนอนอยู่กระท่อมหลังบ้าน เพราะที่ผ่านมาทะเลาะกันประจำ สาเหตุจากเวลาเมาน้องเขยจะบ่น เรื่องอยากจะเปลี่ยนนามสกุลลูกชาย ให้มาใช้นามสกุลของเขา โดยเขามีลูกกับน้องสาวตน 3 คน เป็นผู้หญิง 2 คน อยู่ ป.6 และ ป.4 ลูกชายคนเล็กอยู่ กำลังจะขึ้น ป.1 เรื่องเปลี่ยนนามสกุลจึงเป็นเรื่องบาดหมางกันมาตลอด เพราะมองว่าเขาเป็นชาติพันธุ์ไทยใหญ่ อาจจะมีปัญหาในอนาคต
“ ช่วงหัวค่ำนายโอ๋ชวนกันดื่มเหล้า กินเกือบจะหมด 1 ขวดใหญ่ จึงไปทอดปลาตะเพียนมาเป็นกับแกล้ม และไปซื้อเหล้ามาเพิ่มอีก 1 ขวด ตอนนั้นเกือบ 4 ทุ่ม นายโอ๋ก็เริ่มพูดเรื่องเปลี่ยนนามสกุลอีก ก็ทำให้เริ่มมีปากเสียงกัน เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องนายโอ๋จึงวิ่งไปมีดพร้ามาไล่ทำร้ายตน ตนจึงเดินหนีออกไปทางหน้าบ้าน นายโอ๋ก็วิ่งไล่ตาม จังหวะที่ตนแย่งมีดได้ จึงสะบัดใส่เขาไป ไม่รู้ว่าจะถูกน้องเขยจนบาดเจ็บหรือไม่ ก่อนเดินหนีไปที่บ้านเพื่อนในหมู่บ้าน ”
นายสมศักดิ์ฯ หรือกบ ผู้ก่อเหตุ สารภาพอีกว่า จนเกือบเช้าตนได้เดินกลับมาที่บ้าน ก็เห็นรถกู้ภัย เห็นรถตำรวจ ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไร จึงเดินไปนอนอยู่ที่กระท่อมนาของลุง ที่ตนทำไปก็เพื่อป้องกันตัว ไม่รู้ว่าน้องเขยจะเสียชีวิต ตนไม่ได้ตั้งใจ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ อยากขอโทษน้องเขย ที่พลั้งมือจนน้องเขยเสียชีวิต
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 36 บ.โคกสุวรรณ ม.5 ต.หนองสระปลา ญาติและเพื่อนกำลังเตรียมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลให้นายแสงชัย ปานะ ญาติแจ้งว่า น.ส.หอมจันทร์ นานมา อายุ 36 ปี ภรรยา และลูกอีก 3 คน กำลังเดินทางมาจากเมืองพัทยา เพื่อกลับมาที่บ้าน โดยอาศัยรถส่วนตัวของพี่สาวกลับมาด้วยกัน คาดว่าจะถึงบ้านประมาณ 22.00 น.คืนนี้
นายอนุชา คงรีลำ อายุ 47 ปี เพื่อนบ้าน ผู้พบศพคนแรก เล่าว่า เมื่อเช้านี้กำลังจะพาหมาออกมาฉี่ เมื่อเดินออกมาหน้าบ้าน ก็เห็นนายโอ๋นอนแน่นิ่งอยู่ ตนไม่กล้าเข้าไปดูเพราะกลัว ตนจึงรีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านและญาติของภรรยานายโอ๋ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเขาทะเลาะเรื่องอะไรกัน
นางอรพิน สมพร อายุ 68 ปี ญาติของทั้งสอง เล่าว่า ได้เอาปลาตะเพียนให้นายกบ 3 ตัว เอาไปทอดมานั่งกินแกล้มเหล้า ไม่นานก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน เรื่องนายโอ๋อยากเปลี่ยนนามสกุลลูกชายคนเล็ก ให้มาใช้นามสกุลเขา นายโอ๋บอกว่าลูก 3 คน ก็อยากให้มาใช้นามสกุลเขาบ้าง แต่นายกบก็เถียงว่า จะเปลี่ยนทำไม รังเกียจนามสกุล “นานมา” รังเกียจพ่อหรือยังไง นายโอ๋ก็ปฏิเสธ บอกแค่อยากให้ลูกมีนามสกุลตัวเองสักคน จากนั้นก็เถียงกันไปมาไม่จบ เคยได้ยินเถียงเรื่องนี้กันบ่อย ไม่คิดว่าเรื่องจะรุนแรงแบบนี้
นายบุญชู นานมา อายุ 78 ปี พ่อนายกบ ผู้ก่อเหตุ และพ่อ น.ส.หอมจันทร์ฯ ภรรยานายโอ๋ เล่าว่า นายกบเป็นคนโต คนกลางเป็นผู้หญิง และ น.ส.หอมจันทร์ฯ เป็นลูกคนสุดท้อง น.ส.หอมจันทร์ฯ อยู่กินกับนายโอ๋มานาน 10 กว่าปี จนมีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ก่อนเขาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ กลับมาอยู่บ้านได้เกือบ 10 ปี นายโอ๋มีอาชีพขายเครปตามหมู่บ้าน ส่วน น.ส.หอมจันทร์ฯ ไปทำงานกับพี่สาวเขาที่พัทยา
“ ลูกเขา 3 คน เรียนอยู่ที่บ้าน อ.หนองหาน หลานจะไปอยู่กับตนที่บ้านอีกหลัง ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ จึงมีลูกเขยและลูกชายคนโตอยู่ด้วยกัน ช่วงปิดเทอมหลานไปอยู่กับแม่เขาที่พัทยา ลูกสาวก็คิดว่าจะกลับมาเลี้ยงลูกที่บ้านด้วยเช่นกัน แต่ก็ต้องมาเจอเหตุการณ์นี้ ลูกเขยเป็นคนดี เป็นคนขยัน แต่ก็ชอบดื่มเหล้า ลูกชายตนก็ชอบดื่มเช่นกัน ตนก็เตือนตลอดว่าเมาแล้วอย่าทะเลาะกัน เสียใจมากที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป ส่วนเรื่องเปลี่ยนนามสุกลหลาน ตนเพิ่งรู้ ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ด้วย ก็แล้วแต่เขา 2 คนผัวเมีย ”
