เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ขณะที่ พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.(สอบสวน)สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จ.อุดรธานี ว่ามีชาวบ้านพบศพหญิงชราวัย 81 ปี พลัดตกร่องข้างถนนบ้านงอย-บ้านนาคำแก้ว ม.2 ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ อยู่ห่างจากบ้านงอยประมาณ 300 เมตร จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ที่เกิดเหตุพบศพนางบุญ ฤทธินายม อายุ 81 ปี บ้านเลขที่ 35 ม.5 บ้านดอนย่านาง ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี อยู่ในร่องข้างถนนที่มีความลึก 1-2 เมตร
สภาพศพนอนตะแคงงอเข่า ไม่สวมเสื้อผ้า ห่างกันเล็กน้อยพบผ้าถุงและเสื้อของผู้ตายวางอยู่ที่พื้น พร้อมด้วยไม้เท้าและถุงพลาสติกเสื้อผ้าของผู้ตายที่ยังไม่ได้สวมใส่ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล และร่างรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย ในเบื้องต้นตำรวจและแพทย์เวรสันนิฐานว่า ผู้ตายเสียชีวิตด้วยฮีทสโตรก หรือลมแดด จากสภาวะร่างกายขาดน้ำ มาประมาณ 2 วัน หลังพลัดตกลงไปในร่องข้างถนน ไม่มีผู้พบเห็น และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาจากร่องข้างถนนได้ ประกอบกับเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.เมืองอุดรธานี มีแดดร้อนจัดอุณหภูมิสูงถึง 45.5 องศาเซลเซียส จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ตายถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด และเสียชีวิตลงอย่างทรมาน น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น โดยญาติไม่ติดใจในสาเหตุ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
สอบสวนนางอร ฤทธินายม อายุ 44 ปี ลูกสาวผู้ตายให้การว่า เมื่อ 2 วันที่ ผ่านมา แม่ที่มีหูตาฝ้าฟาง เดินเหินไม่สะดวก บอกกับตนเองว่า จะเดินมาเยี่ยมเพื่อนชื่อยายผัน ที่อาศัยอยู่กับลูกสาวที่มีบ้านอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ หลังทราบข่าวว่ายายผันป่วย จึงเอาเสื้อผ้าของแม่ใส่ถุงพลาสติก เพื่อเอาไว้ไปเปลี่ยน เพราะแม่เป็นคนดื้อห้ามไม่ให้มาก็ไม่ฟัง ที่ไม่ออกตามหาแม่ เนื่องจากทุกครั้งที่แม่มาหายายผัน แม่จะมานอนค้างคืน 1-2 วัน และจะมีคนมาส่งกลับบ้านทุกครั้ง กระทั่งสายวันนี้มีชาวบ้านผ่านมาพบแม่เป็นลมแดดเสียชีวิตอยู่ในร่องข้างถนนที่สร้างใหม่ และห่างจากบ้านลูกสาวยายผันประมาณ 100 เมตร และห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ศาลาพักศพวัดมาลัยศรีสว่าง บ.ดอนย่านาง ต.นาข่า ซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีศพของนางบุญ ฤทธินายม และจะมีการฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.66) พบนางอร ฤทธินายม ลูกสาวได้จุดธูปบอกดวงวิญญาณแม่ให้ไปสู่สุขติ โดยมีญาติพี่น้อง ผู้นำชุมชน และเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวพากันมาช่วยงานตามกำลัง เนื่องจากครอบครัวนางบุญฯ มีฐานะยากจน งานศพจึงเป็นไปด้วยความเรียบง่าย แม้แต่รูปหน้าโลงศพก็ไม่มี
นางสาวอร ฤทธินายม ลูกสาวผู้ตายเล่าว่า ช่วงเช้าวันอาทิตย์ แม่ของตนจะออกไปเยี่ยมยายผัน ที่ป่วย ซึ่งเคยดูแลกันกันมาก่อน และได้บอกตนว่าจะไปเยี่ยมเพื่อนชื่อยายผันและนอนเฝ้าด้วย จึงได้จัดเตรียมเสื้อผ้าให้ไปด้วย เพราะทุกครั้งแม่จะไปนอนค้างคืน 1-2 วัน ทุกครั้งจะมีคนมาส่งกลับบ้าน แต่ถ้าทะเลาะกันตนก็จะออกไปตามหา จะไม่ให้ข้ามคืน เนื่องจากแม่ตนก็สายตาไม่ดี ซึ่งปกติแม่จะไปหายายผัน ที่บ้าน แต่ระยะหลังยายผันได้ย้ายไปอยู่กับลูกสาวคนโตที่บ้านเหล่าศรีจารย์ และไม่ได้ไปหายายผันมานานหลายเดือนแล้ว เมื่อวานตนออกตามหาแม่ แต่จำบ้านลูกสาวคนโตยายผันไม่ได้ และคิดว่าแม่คงนอนอยู่ที่นั่น จึงกลับบ้านมาตามปกติ
”ซึ่งตนก็ได้ห้ามไม่ให้แม่เดินไปไหนมาไหน แต่แม่ก็ไม่ฟังเพราะเป็นคนดื้อ สาเหตุที่แม่เสียชีวิตตนคิดว่าจากอากาศร้อน ประกอบกับสายตาแม่ไม่ดี จึงทำให้แม่พลัดตกลงไปในร่องข้างถนนที่เพิ่งสร้างเสร็จ แต่แม่ขึ้นมาจากร่องข้างถนนไม่ได้ เพราะถนนมีความสูงกว่าเดิม เมื่อเดินขึ้นมาไม่ได้ประกอบกับอากาศร้อน แม่จึงถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะเสียชีวิตอย่างทรมาน และเมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีสุนัขแถวบ้านเห่าหอนทั้งคืน แต่ตนก็ไม่ได้แอะใจ แต่แม่พูดกับหลานสาวเป็นลางสังหรณ์ว่า ต่อไปนี้ให้ไปขอเงินกับพี่ชายนะเพราะพี่ชายทำงานแล้ว ตนได้ยินจึงบอกแม่ไปว่าไม่รู้พูดอะไรแบบนี้ ก่อนแม่จะมาเสียชีวิต และไม่ติดใจในสาเหตุการตายของแม่แต่อย่างใด”
ส่วนนางสาวทองมี อินทร์ทอง อายุ 52 ปี ลูกสาวยายผัน บ้านเลขที่ 289 ม.2 บ.งอย ต.นาข่า เล่าว่า ก่อนหน้านี้ยายบุญชอบเดินมาเล่นพูดคุยกับแม่ตนตามประสาคนชรา ที่ชอบพูดเรื่องในอดีต แต่งแม่ของตนย้ายไปอยู่บ้านพี่สาวคนโตที่บ้านเหล่าศรีจารย์ ห่างจากบ้านของตนประมาณ 5 กิโลเมตร เนื่องจากแกป่วยด้วยโรคชรา เพราะอายุ 90 กว่าปีแล้ว และตนก็ไม่มีเวลาดูแลเพราะเลี้ยงหลานน้อย ซึ่งวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยายบุญก็ไม่ได้มาเคาะประตูบ้าน ตนคิดว่ายายบุญคงมองไม่เห็น เพราะแสงแดดและสายตายายบุญก็ไม่ดี
”ประกอบกับยายบุญไม่คุ้นเคยกับถนน และวันนั้นอากาศร้อนมาก ยายบุญคงจำบ้านตนไม่ได้ และเดินเลยไปประมาณ 100 เมตร ก่อนพลัดตงลงไปร่องข้างถนน ไม่มีคนพบเห็น และขึ้นมาไม่ได้ยายบุญจึงถอดเสื้อผ้าออก ก่อนนอนเสียชีวิตอย่างเวทนา โดยระยะหลังยายบุญไม่ค่อยได้มาหาแม่ มาหากันครั้งล่าสุดช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และแม่ก็ย้ายไปอยู่กับพี่สาวช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ยายบุญออกมาหาแม่ตน เพราะได้ยินข่าวว่าแม่ของตนป่วย จึงจะออกมาเยี่ยมและนอนเฝ้ากัน และชอบพูดคุยถึงสามีของยายบุญที่เสียชีวิตไปแล้ว และเคยมีบ้านอยู่แถวนี้ด้วย”
นางสาวทองมีฯ เล่าต่อว่า รู้สึกเสียใจมากที่ยายบุญตั้งใจเดินมาเยี่ยมแม่ตนที่บ้าน และก็มาเสียชีวิต และเมื่อเช้าที่ผ่านมามีชาวบ้านปั่นจักรยานผ่านจุดเกิดเหตุ แล้วคงจะมองเห็นศพยายบุญ จึงได้มาร้องเรียกบอกตนที่หน้าบ้านบอกว่า ให้ไปดูว่าเป็นคนหรือหุ่นนอนอยู่ในร่องข้างถนน แต่มันมีแมลงวันตอมด้วย ลูกสาวของตนจึงไปดู พบว่าเป็นศพยายบุญ ตนก็รู้สึกเสียใจ เพราะไม่ได้เห็นกันมานานหลายเดือน รู้แต่ว่ายายบุญชอบเดินไปไหนมาไหนตามหมู่บ้าน ลูกห้ามก็ไม่ฟัง ส่วนสาเหตุที่ยายบุญถอดเสื้อผ้านั้น คาดว่าแกคงร้อน หลังจากแกลื่นไถลตกลงไปร่องข้างถนน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีสุนัขเห่าหอนผิดปกติ ตนก็ไม่คิดอะไรคิดว่าสุนัขมาติดตัวเมีย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ (27 ก.ค. 2565) มีผู้ใช้ TikTok @userukoowcdt5j โพสต์คลิปสุดหดหู่ หลังไปเจอคุณยายท่านหนึ่ง อายุ 80 ปี สายตาฝ้าฟาง เดินเท้าเปล่ากว่า 2 กิโลเมตร เพื่อไปยืมเงิน 50 บาทมาซื้อข้าวกิน เหตุเกิดขึ้นบนถนนระหว่างหมู่บ้านดอนย่านางไปบ้านงอย ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งคือนางบุญที่เสียชีวิตในวันนี้ และหลังจากมีคนถ่ายคลิปยายบุญลงโซเชียล ก็มีคนเข้าไปดูจำนวนมาก และติดต่อให้ความช่วยเหลือ โดยมีผู้ใหญ่บ้านดูแลเรื่องเงินบริจาค จากผู้ใจบุญ จนมาทราบว่ายายบุญเสียชีวิตอย่างน่าเวทนาในวันนี้…
