เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 กันยายน 2565 ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.นพดล วิเศษศรี รอง ผกก.หน.สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับนายนันทวัฒน์ สุวรรณจัก หรือเบนซ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 5 บ้านดู่ ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี ของกลางยาไอซ์ 18 ถุง น้ำหนัก 18 กิโลกรัม ยาบ้า 4757 เม็ด อาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด โดยจับกุมได้ที่บ้าน 281 หมู่ 10 ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 13.20 น.วันที่ 7 กันยายน 2565 ตำรวจสืบสวน สภ.นาข่า ได้จับกุมนายวันชัย สุวรรณจัก อายุ 56 ปี นายศราวุธ สังฤทธิ์ อายุ 24 ปี และนายจักรวาล สุวรรณจักร อายุ 23 ปี กำลังมั่วสุมเสพยาบ้าอยู่ภายในบ้านเลขที่ 59 หมู่ 5 ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี พบของกลางยาบ้า 51 เม็ด ยาไอซ์ 0.53 กรัม กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด จากการสอบสวนนายวันชัย ให้การรับสารภาพว่า นายนนทวัฒน์ หรือเบนซ์ ลูกชายของตนได้ให้ยาบ้าและยาไอซ์ มาเสพและจำหน่าย จึงแจ้งข้อหา “เสพและมียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์ ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลจับนายนันทวัฒน์
ต่อมาเวลา 15.30 น. ตำรวจได้สะกดรอยตามและได้จับกุมนายนันทวัฒน์ ขณะขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า CBR สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่หน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีพิชญบัณฑิต 2 บ้านไก่เถื่อน หมู่ 8 ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ให้การรับสารภาพว่าได้นำยาบ้าและยาไอซ์ไปให้พ่อชื่อนายวันชัย สุวรรณจัก เสพและจำหน่ายจริง และยังมียาไอซ์และยาบ้าเหลืออยู่ที่บ้าน จึงควบคุมตัวไปบ้านค้นบ้านพักเลขที่ 281 หมู่ 10 บ้านดู่เหนือ ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี จากการตรวจค้นพบยาไอซ์ 18 ถุง 18 กิโลกรัม ยาบ้า 24 ถุง 4,757 เม็ด อาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้สีดำฟ้า วางอยู่ในห้องนอน
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยต่อว่า จากการสอบสวน นายนันทวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนรู้จักนายวีระชาติ หรือเอก ชาวไทยที่อาศัยอยู่ สปป.ลาว ผ่านทางเฟซบุ๊ก เพราะนายวีระชาติทักตนมา และตนยังรู้จักกับน้องชายนายวีระชาติด้วย ซึ่งนายวีระชาติได้ทักมาว่าจ้างให้ตนนำยาไอซ์ไปส่งลูกค้าตามคำสั่ง จะได้ค่าจ้างตามจำนวน โดยครั้งแรกนายวีระชาติได้ให้ลูกน้องนำยาไอซ์และยาบ้าใส่เรือพายข้ามมาส่งที่ฝั่งไทย บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.หนองคาย ครั้งแรกให้ตนไปรับยาไอซ์ 10 กิโลกรัมไปส่งลูกค้าที่สถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพมหานคร ตนนำยาไอซ์ใส่กระเป๋าเป้นั่งรถทัวร์โดยสารไปส่งลูกค้าตามตกลง เสร็จงานตนได้ค่าจ้าง 2 หมื่นบาท เงินที่ได้นำมาใช้จ่าย ตนคิดว่าได้เงินง่ายและเร็ว
ครั้งที่ 2 วันที่ 1 กันยายน นายวีระชาติสั่งให้ตนไปรับยาไอซ์และยาบ้าที่เดิม แล้วนำยาไอซ์ 18 กิโลกรัมไปส่งลูกค้าที่เดิม แต่ลูกค้าไม่มารับยาไอซ์ ตนจึงพักรอลูกค้าอยู่กรุงเทพ 3 วัน ลูกค้าไม่มารับยาไอซ์ ตนจึงนำยาไอซ์กลับกลับมาเก็บไว้ที่บ้าน และขอเงินค่าจ้าง 4 หมื่นบาท แต่ยังไม่ได้คำตอบก็มาถูกตำรวจจับก่อน ส่วนอาวุธปืนลูกซอง เป็นของเพื่อนนำมาจำนำไว้ ไม่ได้เอาไว้ต่อสู้กับตำรวจแต่อย่างใด แม้ว่าตนจะเป็นหัวหน้าแก๊งโซนบ้านนอก และมีเพื่อนร่วมแก๊งกว่า 100 คนก็ตาม
ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
