เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุหลานชายเมายาบ้าคลั่งอาละวาดใช้ไม้ทุบหัวลุงจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านสี่แจ ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี พร้อมด้วย พ.ต.ท.อาทิตย์ จันทา รอง ผกก.สส.สภ.กุมภวาปี และตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุมภวาปี รุดออกไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บ้านเลขที่ 109 บ.สี่แจ ม.5 ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี บริเวณริมถนนข้างบ้านพบศพนายปั่น บุญมา อายุ 56 ปี นอนหงาย มีแผลแตกที่บริเวณท้ายทอย ตามลำตัวมีร่องรอยฟกช้ำ และที่หน้าแข้งทั้ง 2 ข้างมีแผลแตก เลือดไหลเต็มพื้น ใกล้กันพบท่อนไม้เหลี่ยมยาว 1.50 เมตร ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายบันพิชิต บุญมา หรือชิต หรือเต้ย อายุ 25 ปี หลานคนตาย ได้หลบหนีเข้าไปในบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ได้ปิดล้อมเอาไว้ ตำรวจได้เจรจาจนยอมออกมามอบตัว
นายบันพิชิตฯ ที่อยู่ในอาการสับสน ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุใช้ไม้ตีลุงจริง เนื่องจากลุงจะมาฆ่าตนก่อน ตนมีควายอยู่ 1 ตัว เป็นตัวผู้ ลุงจะมาแย่งควายไป จึงทะเลาะกับลุง จึงเดินเข้ามาเอาไม้ในบ้าน ลุงเดินตามมาถึงหน้าบ้าน ก็ออกมาใช้ไม้ฟาดไปที่ขาก่อน พอลุงจะหนี ตนจึงฟาดไปที่หัว 1 ครั้ง ลุงล้มลงจึงตีไปที่สีข้างแบบไม่ยั้ง จำไม่ได้ว่าตีกี่ครั้ง แต่ไม่ได้ตีแรง กะว่าจะให้แกหมอบเท่านั้น
ตำรวจได้คุมตัวนายบันพิชิตฯ ไปชี้จุดที่วางอาวุธไม้ไว้ในบ้าน ซึ่งพบท่อนไม้อีกหนึ่งท่อน จากนั้นนำตัวชี้จุดนายปั่นฯ นอนเสียชีวิต นายบันพิชิตฯ ได้สำนึกผิด บอกว่ารักลุงมาก และนั่งลงโค้งคำนับศพ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของญาติ และชาวบ้านที่มุงดูเหตุการณ์ หลังจากนั้นตำรวจจึงนำนายบันพิชิตฯ ขึ้นรถยนต์ชุดสืบสวนไปที่ สภ.กุมภวาปี ทันที เนื่องจากชาวบ้านอยู่ในความโกรธแค้น อาจจะถูกรุมประชาทัณฑ์
น.ส.ยุพิน บุญมา อายุ 50 ปี น้องสาวผู้ตาย และป้าของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ครอบครัวของผู้ตายมีพี่น้อง 8 คน ชาย 5 หญิง 3 นายปั่นฯ เป็นลูกคนที่ 3 ส่วนแม่ของนายบันพิชิตฯ เป็นลูกคนสุดท้อง บ้านหลังที่นายบันพิชิตฯ อยู่เป็นชื่อของแม่ หรือยายของนายบันพิชิตฯ แต่ไม่มีคนมาอยู่ด้วย เพราะนายบันพิชิตฯ ติดเสพยาบ้าอย่างหนัก จนมีอาการคุ้มคลั่งอยู่ประจำ ทุบข้าวของ ทุบบ้าน เผาบ้าน เผาสิ่งของ จนไม่มีใครอยากยุ่งด้วย ญาติหลายคนได้ไปอาศัยอยู่บ้านหลังอื่น แต่ยังอยู่ในละแวกใกล้กัน
“ หลานเคยทำร้ายลุงมา 2 ครั้ง เมื่อเดือนที่แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ปกติลุงมักจะมานอนเล่นที่หน้าหลังเกิดเหตุ เนื่องจากลุงชอบดื่มเหล้า เมาไม่อยากให้เดินไปไหน กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อถูกหลานทำร้าย ก็บอกให้ลุงอย่าเข้ามาที่บ้าน ลุงห่างจากบ้านนี้ไปนาน แต่วันนี้ไม่รู้นึกยังไงเข้ามา เมื่อเช้าก็บอกแล้วว่าอย่าเข้ามา เพราะวันนี้หลานเมายาบ้า หากลุงไม่เข้ามา อาจจะเป็นตาที่ต้องตายก็เป็นได้ ”
พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเคยถูกจับในข้อหาเสพยาบ้า และลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ อ.กุมภวาปี เคยจำคุก 2 ปีกว่า พ้นโทษเมื่อปี 2562 ผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุจริง สาเหตุคาดว่ามาจากการเสพยาเสพติดจนมีอาการหลอนและคลั่งอาละวาด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายบันพิชิตฯ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (หรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
