เวลา 11.30 น. วันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่ห้องประชุมทองกวาว สนง.สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.อุดรธานี ปี 2563 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา สมาคมโรงแรม ธุรกิจและการท่องเที่ยวร่วมประชุม หารือแนวทางการบังคับใช้ พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ติดตามสถานการณ์ หามาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสปอดอักเสพ โควิด-19 ในพื้นที่ (ประชุมไปพร้อมอาหารกลางวัน)
นายแพทย์ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีสาระสำคัญระบุใน มาตรา 31 ประชาชน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล หรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ หรือสถานที่อื่นใด เช่น โรงแรม ต้องแจ้งข้อมูลเมื่อพบมีผู้ต้องสงสัย หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่ออันตราย ฝ่าฝืนมีโทษ ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท , มาตรา 34 (1) ผู้ที่เป็นโรคติดต่ออันตราย หรือเข้าข่ายต้องสงสัย หรือมารับการตรวจรักษา ต้องเข้าสู่การแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต ในสถานที่ที่กำหนด จนกว่าจะพ้นระยะติดต่อ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
มาตรา 35 เมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้สั่งปิดตลาด สถานที่ชุมชน สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นใดเป็นการชั่วคราวได้ ให้ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19 หยุดทำงานชั่วคราวได้ และสั่งห้ามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโรค เข้าสถานที่ชุมนุมชน เว้นแต่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , มาตรา 39 (5) ห้ามเจ้าของหรือ ผู้ควบคุมยานพาหนะ นำผู้เดินทางที่ไม่ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเข้าประเทศ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท , มาตรา 40 (2) พาหนะที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตควบคุมโรคจากต่างประเทศ ต้องจอดอยู่ในสถานที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
ปัจจุบันจังหวัดอุดรธานีไม่มีผู้ป่วยยืนยัน มีเพียงผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคสะสม 28 คน เฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง 155 คน พ้นระยะ 14 วัน 70 คน จังหวัดอุดรธานีเชิญภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมหามาตรการในการป้องกัน และเฝ้าระวังโรคโควิด-19 เพื่อให้การเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้สามารถควบคุมโรคได้สงบอย่างรวดเร็ว โดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วนจัดทำประกาศมาตรการองค์กร ให้ผู้ที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง กักตัวเองอยู่ในบ้าน 14 วัน
และจัดให้มีการประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคโควิด-19 “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย” พร้อมเตรียมจัดหาพื้นที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม กรณีเกิดการระบาดในพื้นที่ ที่ประชุมจะได้หารือกับโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม และโรงพยาบาลกองบิน 23 อีกครั้ง ส่วนประเด็นการป้องกันละเฝ้าระวังแรงงานที่จะเดินกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ย ให้มีการติดตามเฝ้าระวังควบคุมโรค อย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผีน้อย” (แรงงานที่เดินทางกลับจ้าประเทศเกาหลี) ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ประสาน สนง.เขตสุขภาพที่ 8 อุดรธานี ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงาน ท่าอากาศยาน ติดตามรายชื่อผู้เดินทางกลับมา และให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเฝ้าระวัง โดยจัดชุดเฝ้าระวัง ซึ่งประกอบด้วยบันทึกกิจกรรม 14 วัน , เจลล้างมือ , หน้ากากอนามัยให้ทุกครอบครัว เพื่อบันทึกกิจกรรมใน 14 วัน
เพื่อเป็นการป้องกันข่าวปลอม หรือ Fake news ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ โดยจังหวัดจะรายงานสถานการณ์ ให้พี่น้องประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง ผ่านประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี และสื่อมวลชน สำหรับประชาชนที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ย ขอความร่วมมือสังเกตอาการอยู่ในบ้าน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติ มีไข้ ไอ จาม แจ้ง สายด่วนกรมควบคุมโรค ที่ 1422 หรือสายด่วนจังหวัดอุดรธานี ที่ 08-4428-6982…
