วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมหนุ่มก่อสร้างไปดูหมอลำเจ้าถิ่นแทงดับ

หนุ่มก่อสร้างไปดูหมอลำเจ้าถิ่นแทงดับ

หนุ่มก่อสร้างไปดูหมอลำ เมาได้ที่กำลังจะกลับถูกหนุ่มเจ้าถิ่นชักมีดล็อคคอกระหน่ำแทง 3 แผล ฟุบคารถจักรยานยนต์ เร่งนำส่งโรงพยาบาลช่วยชีวิต แต่เสียชีวิตในที่สุด มืดมีดถูกเจ้าหน้าที่ดูแลงานรวบตัวทันควัน พยานในงานยืนยันชัด แต่ปากแข็งบอกไม่ใช่คนแทง อ้างไปมีเรื่องกับโจ๋ต่างถิ่นนอกงาน มีดตกเลยถือกลับมาด้วย เพื่อนร่วมงานเศร้าเผยคนตายนิสัยดี รับเหมาสร้างบ้านเสร็จแล้วกำลังจะกลับไปหาลูกเมีย แต่เกิดเหตุร้ายขึ้นเสียก่อน

เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 1 เมษายน 2567 พ.ต.ท.ไพรงาม ยศปัญญา สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ถนนหน้าวัดสะด้วง หมู่ 11 บ้านนาบัว ต.นาบัว จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. จักรภพ ศรีจันทะ ผกก.สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พ.ต.ท.ไพฑูรย์ โสนะโชติ รอง ผกก.ป.สภ.เพ็ญ พ.ต.ท.ศุภภาษ จิตตรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ นำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นงานบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติ มีหมอลำซิ่งมาแสดง บริเวณถนนหลังวัด พบนายรัฐพร อูปแก้ว หรือโจ้ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 1 ต.ซาง อ.เซกา จ.บึงกาฬ นั่งฟุบอยู่บนรถรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีขาวแดง ทะเบียน ขธย 270 สกลนคร พบถูกแทงด้วยอาวุธมีด บริเวณชายโครงขวา 1 แผล ใต้ราวนมซ้าย 1 แผล ชายโครงซ้าย 1 แผล แก้มขวา 1 แผล เลือดไหลนองพื้น เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลเพ็ญ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนมือมีดคือนายอดิศักดิ์ คำแพงราช หรืออาร์ท อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 5 บ้านดอนกลอย ต.นาบัว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนี และวิ่งกลับมาที่เกิดเหตุ พร้อมมีดพับปลายแหลมยาว 21 ซม.มีคาบเลือดติด แต่ให้การไม่รู้เรื่อง ตำรวจจึงควบคุมตัวไปโรงพัก

จากการสอบสวนนายอดิศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนมีอาชีพทำนา และรับจ้าง และชอบเสพยาบ้า โดยจะเสพวันละ 2 เม็ด เมื่อคืนนี้ได้ไปดูหมอลำซิ่งในหมู่บ้าน ตนไม่ได้ก่อเหตุแทงใคร เพราะไม่เคยรู้จักผู้ตาย ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน ตนไปดูหมอลำซิ่ง และเต้นอยู่ข้างร้านขายส้มตำอยู่ติดถนน หลังหมอลำเลิก ตนได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่อริชื่อปิก้า ชาวบ้านยางซอง บริเวณหน้าวัด คู่อริมีมีดส่วนตนมีท่อนไม้ ตนใช้ไม้ฟาดอริจนมีดหล่นออกจากมือ ตนหยิบมีดวิ่งหลบหนีมาทางหลังวัด ก่อนจะมาโดนชาวบ้านจับกุมส่งตำรวจ

นายเปา นามสมมติ อายุ 30 ปี พยานผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนไม่รู้จักทั้งผู้ตายและผู้ก่อเหตุ เพราะตนมากับวงหมอลำซิ่ง หลังหมอลำเลิกแสดง เจ้าภาพมาจ่ายเงินให้หมอลำ ตนเก็บของขึ้นรถเสร็จแล้วก็นั่งอยู่หลังปิกอัพรอแฟน ตนไม่ได้ดื่มเหล้า และเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีม่วงล๊อคคอและแทงผู้ตาย ซึ่งนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ ซึ่งร้องโอ้ยๆ เสร็จแล้วคนแทงวิ่งหลบหนีไปทางวัดกับเพื่อน ผู้ตายพยายามจะขี่รถออกไป แต่ผู้ตายฟุบอยู่บนรถจักรยานยนต์ ตนจึงเดินไปดูเห็นเลือดไหลเต็มพื้น ตนจึงแจ้งเจ้าภาพว่ามีคนถูกแทง ขณะเจ้าหน้าที่กำลังช่วยผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล คนแทงถือมีดวิ่งกลับมาที่เกิดเหตุ พอตนเห็นก็จำได้ทันทีว่าเป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้ชี้ให้เจ้าหน้าที่จับกุม ซึ่งเจ้าภาพก็บอกว่าคนใส่เสื้อสีม่วงในงานมีคนเดียว

ส่วนนายศุภชัย ประทายบุตร อายุ 50 ปี เพื่อนรุ่นพี่ผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายมาทำงานก่อสร้างที่หมู่บ้านนี้มาประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว ตนรู้จักกับผู้ตายมาประมาณ 1 ปี เพราะผู้ตายและตนทำงานสายเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมาขอให้ตนพาไปดูหมอลำซิ่ง ซึ่งผู้ตายเป็นคนต่างถิ่น เกรงว่าจะได้รับอันตราย ตนจึงพาไปดูหมอลำ โดยตนนั่งดื่มเหล้ากับผู้ตายหมดไป 1 แบน และผู้ตายบอกให้ตนพาไปเต้นหน้าเวที ตนจึงพาไปเต้น 2 เพลง และไม่มีเหตุกระทบกระทั่งกับใคร แล้วก็กลับมานั่งดื่มต่อ ตนมีอาการเมาจึงขอตัวกลับบ้าน และบอกผู้ตายว่าให้ระวังตัว เพราะเป็นคนต่างถิ่น ซึ่งผู้ตายก็ไปนั่งดื่มเหล้าต่อใกล้ๆ กับร้านขายส้มตำ

“ขณะนอนหลับมีชาวบ้านโทรมาบอกตนว่า ผู้ตายโดนแทง ตนจึงรีบออกมาดู พบแต่กองเลือด เจ้าหน้าที่ส่งโรงพยาบาลแล้ว และเสียชีวิต ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมาก ที่เกิดเหตุแบบนี้ เพราะบรรยากาศงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่เหตุเหตุทะเลาะวิวาท เป็นปกติดี แต่ไม่รู้ว่ามือมีดกับผู้ตายมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน มีเหตุจูงใจอะไรที่ลงมือก่อเหตุ ส่วนผู้ตายเป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดี นอบน้อม ยกมือไหว้ผู้อื่นตลอด”

นายพงษ์มนาถ จันทร์ดี อายุ 42 ปี เจ้าของร้านขายของชำใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ผู้ตายเป็นลูกค้าประจำที่ร้าน มารับงานสร้างบ้านที่นี่เกือบ 2 ปีแล้ว มาก่อสร้างบ้าน 2 หลัง ปกติแล้วผู้ตายนิสัยดี พูดจาดี จึงสนิทสนมกับตน เมื่อคืนนี้มีงานบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติ มีหมอลำซิ่งมาแสดง เวลาประมาณ 00.30 น.ผู้ตายเดินมาซื้อเหล้า 1 กลม โซดา 3 ขวด ไปกินที่เวทีหมอลำ ซึ่งไม่รู้ว่าไปนั่งกินกับใคร ตนปิดร้านเกือบตี 1 จึงไม่รู้ว่าผู้ตายโดนแทง กระทั่งตื่นเช้าจึงทราบเรื่อง และญาติได้มารับศพและมาเชิญวิญญาณที่เกิดเหตุ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.เซกา จ.บึงกาฬ แต่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายยังอยู่ที่เกิดเหตุ

นายวัลลภ ฤทธิสิทธิ์ อายุ 41 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง หัวหน้าผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายกับตนเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ผู้ตายทำงานกับตนมานานแล้ว ทำงานได้ทุกอย่าง มีฝีมือดี ตนมารับเหมาก่อสร้างบ้านที่นี่เกือบ 2 ปี สร้างบ้านเป็นหลังที่ 2 ใกล้จะเสร็จแล้วเหลือเก็บงานอีกเล็กน้อย ผู้ตายตั้งใจทำงานเก็บเงินส่งให้ลูกและเมีย ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร ก่อนเกิดเหตุ เมื่อ 2-3 วันก่อน ผู้ตายมาบอกตนว่าคิดถึงบ้าน ให้ตนพากลับบ้านด้วย ตนตั้งใจว่าวันอาทิตย์จะพาผู้ตายกลับบ้าน แต่พอเช้าวันอาทิตย์ผู้ตายแต่งชุดทำงาน จึงปล่อยให้ผู้ตายทำงาน

พ.ต.ท.ศุภภาษ จิตตรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า ตำรวจได้นำนายอดิศักดิ์ มาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง ถึงแม้นายอดิศักดิ์จะให้การปฏิเสธ แต่มีประจักษ์พยาน เห็นเหตุการณ์ จึงได้แจ้งข้อหานายอดิศักดิ์ “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments