ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ศาลจังหวัดอุดรธานี นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร พร้อมนายกรวีร์ สาราคำ บุตรชายนายขวัญชัย เดินทางมารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่นายขวัญชัยฯ ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยอาวุธสงครามปืนอาร์ก้าที่บ้านพัก สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดเร 97.5 เมกกะเฮิร์ต บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเช้าวันที่ 22 มกราคม 2557 จนนายขวัญชัยฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และรักษาตัวจนหาย แต่ต้องเป็นอัมพฤษครึ่งซีกซ้าย และตาซ้ายมองไม่เห็น
โดยหลังเกิดเหตุตำรวจจับกุม และอัยการส่งฟ้อง ประกอบด้วย ร.ต.หรือ นายปรัชญา จันทร์รอดภัย , จ.ส.อ.หรือ นายมาวิน ยางบัว , จ.ส.ท.หรือ นายวิโรจน์ พิมพ์สิงห์ , ส.อ.หรือ นายชานนท์ ทับทิมทอง , จ.ส.อ.หรือ นายจุฑาทร เนียมทอง ทหารสังกัด พล.ร.9 และนายมะดือนัง หรือ มะตือนัง มะแซ อส.จังหวัดนราธิวาส เดินทางมารับฟังคำพิพากษา พร้อมทนายความ หลังจากที่ นายขวัญชัยฯ ได้เป็นโจทก์ร่วมฟ้องในคดี “เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” และ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2,879,403 บาท ซึ่งศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง และครั้งนี้ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง
นายขวัญชัย ไพรพนา บอกกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า ยอมรับในคำพิพากษา หลังจากนี้ตนก็จะใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัว ทำบุญไหว้พระ และต้องรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่ถูกยิงต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากออกจากเรือนจำ ก็ไม่ได้จัดรายการวิทยุแล้ว ต่อไปนี้ก็คงออกงานสังคม พบปะสมาชิกชมรมคนรักอุดรบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายขวัญชัยฯ ถูกคนร้ายบุกยิงถล่มด้วยอาวุธปืนอาก้ากว่า 50 นัด ขณะนั่งดื่มกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ ที่โต๊ะหน้าบ้านพัก ภายในบ้านพักในสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เม็กกะเฮีร์ต บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี จนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณแขนและขา เมื่อเช้าวันที่ 22 มกราคม 2557 โดยตำรวจสามารถแกะรอยทราบกลุ่มมือปืน และได้หลักฐานอาวุธปืนอาร์ก้า 3 กระบอก และรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน” ซึ่งต่อมาผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัว พบเป็นทหาร 5 นาย และ อส.1 นาย ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น จนถึงวันนี้ ศาลฎีกามีคำสั่งยกฟ้อง คดีจึงถือเป็นอันสิ้นสุด