ผู้สื่อข่าวรายงานมาเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 ที่ห้องประชุมโรงงานยางแท่ง บ.ศรีตรัง แองโกร อินดัสทรี จก.(มหาชน) ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี นายธนพล จันทรนิมิ รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุม คณะทำงานแก้ไขปัญหากระบวนการผลิตโรงงานยางพารา กรณี 2 โรงงานยางแท่งยักษ์ของ บ.ศรีตรัง แองโกร อินดัสทรี จก.(มหาชน) และ บ.วงศ์บัณฑิต จก. ถ.นิตโย ต.หนองนาคำ เพื่อแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนติดต่อกันมากว่า 5 ปี และกลายเป็นต้นแบบแก้ไขปัญหาโรงยางแท่งทั่วประเทศ
การประชุมในครั้งนี้ได้นำผลการตรวจวิเคราะห์ซ้ำ สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) ในบริเวณโรงงานยางแท่ง และพื้นที่ชุมชนโดยรอบทั้ง 2 โรงงาน ระหว่างวันที่ 11-15 มิ.ย.61 เทียบเคียงกับการตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 20-23 ก.พ.60 ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม หลังมีคำสั่งให้ทำการปรับปรุงไปหลายครั้งแล้ว โดยมีหน่วยงานราชการเกี่ยวข้อง , ตัวแทนโรงงานทั้ง 2 โรง , ตัวแทนชาวบ้านที่เดือดร้อน และ ผศ.ดร.ธีร์ธวัช สิงหศิริ รองคณบดี คณะวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มรภ.อุดรธานี ร่วมรับฟังเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน
รายงานของ “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม” ระบุประเด็นมีปัญหาว่า สารที่ตรวจพบในครั้งที่ 1 พบสารมากกว่า 26 ชนิด และเป็นสารส่งผลกระทบกับประชาชน 8 ชนิด ในการตรวจพบในครั้งที่ 2 จำนวน 6 สาร ซ้ำกับสารที่ตรวจพบครั้งแรก ประกอบด้วย Acrylonitrile , ChloroForm , Trans-1-3-Dichloroproppene , Benzyl Chloride , 2-Propenal(Acrolein) และ 2-Hexanone ซึ่งข้อมูลวิชาการระบุว่าเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง สารก่อให้กลายพันธุ์ และสารพิษต่อระบบสืบพันธุ์ โดยเป็นการตรวจพบทั้งในโรงงาน และในชุมชน ซึ่งความรุ่นแรงเกิดที่โกดัง และลานกองยางเครฟ และยางก้อนถ้วย
ขณะการรายงานของแต่ละหน่วยงาน เกิดการตอบโต้จากตัวแทนประชาชน โดยเฉพาะหน่วยงานที่ระบุว่า สารหลายชนิดที่พบในการตรวจเก็บ ไม่ส่งผลกระทบที่รุ่นแรงเฉียบพลัน ทำให้ตัวแทนผู้เดือดร้อนไม่พอใจ กล่าวในที่ประชุมว่า “ ชาวบ้านดมกลิ่นเหม็นโรงงานมานาน ไม่เคยมีความสุขแม้อยู่บ้านตัวเอง ล่าสุดวันที่ 12-14 ก.ย.ที่ผ่านมาเหม็นรุนแรงมาก โดยโรงงานไม่หยุดเครื่องตามข้อตกลง ถ้าหมอฯบอกว่าไม่กระทบรุนแรง ก็รบกวนให้มานอนที่ในพื้นที่ อยากมาให้สัมผัสข้อเท็จจริง ”
นางกิตติชา ธานีเนียม กล่าวหลังประชุมว่า วันนี้ยังน้อยใจไม่สบายใจกับท่าที่ของแพทย์ ซึ่งวันนี้เรายืนยันว่า ผลตรวจกรมควบคุมมลพิษครั้งแรก จนมีคำสั่งปรับปรุงแก้ไข ทำแล้วเราก็บอกว่ายังเหม็นอยู่ เวลาผ่านไป 1 ปีเศษ ผลตรวจยืนยันว่า “ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” สารแปลกปลอม ต้นเหตุการณ์เกิดมะเร็งก็ยังตรวจพบ เหมือนเดิมที่ตรวจพบในครั้งแรก เท่ากับการปรับปรุงไม่ได้ผล ไม่รวมที่ช่วงตรวจรอบที่สอง เป็นช่วงโรงงานไม่มีกลิ่น ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใด ซึ่งผลตรวจออกมาแบบนี้ น่าจะมีคำสั่งปิดปรับปรุงได้แล้ว
ผศ.ดร.ธีร์ธวัช สิงหศิริ รองคณะบดี คณะวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มรภ.อุดรธานี กล่าวว่า คณะทำงานมาร่วมกันแก้ไขปัญหา ชาวบ้านที่เดือดร้อนเรื่องกลิ่น และความห่วงใยด้านสุขภาพ วันนี้มีผลการตรวจวัดชัดเจนว่า พบสารน่าจะเป็นต้นเหตุทั้งสองครั้ง ที่ตรวจห่างกันกว่า 1 ปีเศษ บางสารเกินค่ามาตรฐาน บางสารมีข้อมูลว่าก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ซึ่งไม่ต้องถามว่าเข้มข้นแค่ไหน สำคัญคือมันพบทั้งในโรงงาน และพบในชุมชน น่าเป็นห่วงสุขภาพคนงาน และประชาชน ได้เสนอที่ประชุมให้ดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง
นายธนพล จันทรนิมิ รอง ผวจ.อุดรธานี มีคำสั่งในที่ประชุมว่า ข้อมูลที่กรมควบคุมมลพิษแจ้งมา น่าจะมีความชัดเจนของสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะต้องฟังเหตุผล หรือคำอภิปราย โดยขอให้โรงงานยางแท่งทั้ง 2 โรง เสนอแผนปรับปรุงแก้ไขโรงงาน ให้ให้ สนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนที่ตนเองจะเกษียณอายุราชการ เพื่อรายงานสรุปให้ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี รับทราบเพื่อพิจารณา หรือเตรียมมอบหมายงานให้รองผู้ว่าฯอื่นต่อไป พร้อม ทสจ.อุดรธานี ขอรับการสนับสนุนตรวจ VOC ติดต่อกัน 15 วัน
