เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ธันวาคม พ.ต.ท.อัมพร ปลัดพรมมา รอง ผกก.สอบสวน.สภ.บ้านผือ ได้รับแจ้งออกสอบสวนเหตุยิงกัน ที่ฟาร์มเห็ดธนสิริฟาร์ม (ผลิตก้อนเห็ด) เลขที่ 254 หมู่ 9 บ้านโนนวารี ต.บ้านผือ พร้อมกับ พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.บ้านผือ นายชัชวาลย์ ปทานนท์ นายอำเภอบ้านผือ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.บ้านผือ กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมบ้านผือ
ที่เกิดเหตุ อยู่บนบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง ในห้องนอน พบศพนายสุพรรณ ขันทะวงษ์ อายุ 49 ปี อยู่เลขที่ 202 บ้านโนนวารี คนงานฟาร์ม นอนคว่ำหน้าอยู่พื้นข้างเตียง สวมเสื้อเชิ้ตยีนแขนยาว กางเกงยีน ทับอาวุธปืนขนาด 9 มม.ซีแซด ถูกยิงด้วยปืนขมับขาวทะลุซ้าย 1 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกยิงเข้าใบหน้า 1 นัด ทราบชื่อนางสุภาลักษณ์ เชื้อกลางใหญ่ อายุ 40 ปี อยู่เลขที่ 254 บ้านโนนวารี ญาตินำส่งโรงพยาบาลบ้านผือ พบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกในที่เกิดเหตุ 3 ปลอก กระสุนขนาด 9 มม. 9 นัด บรรจุในเม็กกาซีน
สอบสวนนางอรวรรณ. เชื้อกลางใหญ่ อายุ 44 ปี เจ้าของฟาร์มเห็ด ให้การว่า นายสุพรรณและนางยุวดี ขันทะวงษ์ 58 ปี สามีภรรยา เป็นคนงานทำงานในฟาร์มเห็ดมา 2 ปี ทั้งสองทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ก่อนหน้านี้ประมาณ 6 เดือน นางสุภาลักษณ์ฯน้องสาวของตน แยกทางกับสามีที่กรุงเทพฯ กลับมาทำงานที่ฟาร์มเห็ดกับตน ซึ่งนายสุพรรณฯและนางสุภาลักษณ์ฯได้แอบหากันฉันท์ชู้สาว ทำให้นายสุพรรณฯและภรรยา มีปากเสียงทะเลาะกันเพราะหึงหวง นายสุพรรณจึงห้ามภรรยามาทำงาน 1 เดือน
เช้าวันนี้ผู้ตายมาทำงานที่ฟาร์มตามปกติ ส่วนตนได้นำเห็ดไปส่ง กำลังขับรถกลับฟาร์ม นางสุภาลักษณ์ฯ ได้โทรศัพท์มาบอกว่าถูกนายสุพรรณฯยิง ได้รับบาดเจ็บให้มารับเร็วๆ เมื่อมาถึงก็พบนางสุภาลักษณ์ฯถูกยิงที่ใบหน้า แต่ยังมีสติเล่าว่า นายสุพรรณฯ เรียกขึ้นไปคุยบนบ้านในห้องนอน แล้วใช้ปืนที่พกมาด้วยจ่อยิงศีรษะ 1 นัด แต่ได้ใช้มือปัดทำให้กระสุนถูกใบหน้า ส่วนนายสุพรรณฯ ใช้อาวุธปืนยิงขมับฆ่าตัวตาย จึงรีบนำน้องสาวส่งโรงพยาบาลบ้านผือ และแจ้งตำรวจ
พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.บ้านผือ เปิดเผยว่า นายสุพรรณฯกับภรรยา มีบ้านยู่บ้านใกล้ฟาร์มเห็ด หลังสามีใกล้ชิดกับน้องสาวเจ้าของฟาร์มเห็ด จึงมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ ญาติเล่าว่าเมื่อหลายวันก่อน นายสุพรรณฯได้ขอหย่ากับภรรยา แต่ภรรยาไม่ยอม นายสุพรรณฯ จึงไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ยังไม่ยอมไป ก่อนเกิดเหตุนายสุพรรณฯบอกญาติว่า จะมามอบตัวกับตำรวจ โดยไม่รู้ว่ามอบตัวเพราะอะไร แต่กลับมายิงนางสภาลักษณ์ฯ คิดว่านางสุภาลักษณ์ตาย จึงยิงตัวตายตาม ขณะที่ภรรยาหายจากบ้านไปกว่า 3 วันแล้ว ญาติภาวนาให้หนีไปอยู่ที่อื่น อย่าถูกสามียิงเสียชีวิตและเอาศพไปซุกซ่อน ซึ่งตำรวจยังติดตามหานางยุวดีฯอยู่
