หนุ่มหนองคายเก็บเงินดอกให้นายจ้าง กุเรื่องถูกคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ ตำรวจเค้นสอบตลอดคืนพบพิรุธ สุดท้ายเปิดปากเอาเงินไปใช้หนี้พนันฟุตบอลและเลี้ยงสาว
เมื่อคืนวันที่ 20 พฤศจิกายน ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่บริเวณปากซอยประชาสันติ 5 เทศบาลนครอุดรธานี ร.ต.อ.จักรพงษ์ ต้องแต้ม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พร้อม พ.ต.ต.ธีรพงษ์ องอาจ สว.สืบสวน , พ.ต.ต.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ สวป. นำกำลังตำรวจสายตรวจ191 และตำรวจชุดสืบสวน ออกไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุปากซอยประชาสันติ 5 เจ้าหน้าที่พบ นายสุเมศ วรพรม อายุ 27 ปี อยู่ที่ 259 ม.6 ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การว่า ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ลักษณะผอมสูง สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำ ใส่เสื้อสีดำทั้งคู่ ขี่รถ จยย.บิ๊กไบค์ สีดำ ไม่ติดแผ่นทะเบียนเข้ามาจอดแล้ว จากนั้นได้ใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ ขณะที่ตนจอดรถ จยย.โทรศัพท์อยู่ที่ปากซอยประชาสันติ 5 โดยคนร้ายได้แย่งเอากระเป๋าสะพายของตน ในกระเป๋ามีเงินสด 1,400 บาท และเอกสารต่างๆ หลังได้ทรัพย์สินของตนไป คนร้ายได้ขี่รถ จยย.บิ๊กไบค์ หลบหนีออกไปทางถนนนิตโย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังไป พร้อมขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ และสอบถามชาวบ้านภายในซอยประชาสันติ โดยชาวบ้านบอกว่าไม่มีเหตุเกิดขึ้น และนายสุเมศฯ แสดงท่าทีพิรุธ ไม่มีอาการตกใจ พูดให้การวกไปวนมา จึงนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองอุดรธานี หลังถูกซักถามเป็นเวลานาน นายสุเมศฯ ยิ่งให้การมีพิรุธ จนเปิดปากยอมรับสารภาพว่า ได้กุเรื่องว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์ขึ้นมา เพราะเงินดังกล่าวเป็นของนายจ้าง
นายสุเมศฯ รับสารภาพว่า มีอาชีพเก็บเงินดอกเบี้ยรายวันให้นายทุน ได้เงินเดือน 5,000 บาท และเบี้ยเลี้ยงวันละ 200 บาท ระยะหลังเก็บเงินไม่ได้ จึงได้เพียงแต่เบี้ยเลี้ยงเท่านั้น ล่าสุดเก็บเงินได้ 1,400 บาท แต่ตนนำเงินไปใช้หมด โดยนำเงินไปเล่นพนันฟุตบอล 500 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีก 900 บาท ได้นำไปเลี้ยงข้าวนักศึกษาสาว เมื่อใช้เงินหมด กลัวว่าจะถูกนายจ้างจะไม่ให้ทำงานต่อ เพราะนายจ้างเคยโกรธเรื่องเงินไม่ครบมาแล้วหลายครั้ง มาครั้งนี้ตนจึงกุเรื่องขึ้นมาว่า โดนคนร้ายชิงทรัพย์วิ่งราวกระเป๋าเอาไป
โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายสุเมศฯ มีความผิดตามกฎหมายอาชญา มาตรา 137 แจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนัก ทำให้อื่นผู้อื่นหรือประชาชน เดือดร้อนได้รับความเสียหาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยนำตัวนายสุเมศฯ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป