ขอบคุณภาพจาก…กุมภวาปีโพสต์
รถพ่วงขนอาหารไก่ตกสะพานน้ำปาว เหตุเบรกเสียบรรทุกหนักมาก สะพานยังมั่นคงแข็งแรง ยังไม่หมดอายุใช้งาน มีแผนสร้างใหม่ 4 เลน 200 ล้านบาท ปี 64 ชวด ปี 65 ขอใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 หลังจากเกิดอุบัติเหตุกลางสะพาน “ข้ามลำน้ำปาว” อ.กุมภวาปี รถบรรทุกพ่วงอาหารไก่ นำอาหารไก่จากโรงงานในส่วนกลาง มุ่งหน้าจาก อ.กุมภวาปีไป อ.ศรีธาตุ ขณะขับรถข้ามสะพานจากฝั่ง อ.กุมภวาปี ที่สูงกว่าอีกด้าน 1 เมตร ซึ่งเป็นช่วงรถบนสะพานชะลอตัวรอเลี้ยวซ้าย เกิดเบรกใช้งานไม่ได้ จึงหลบออกทางด้านขวา แต่มีรถปิกอัพและรถเก๋งสวนมาพอดี จึงชนเข้าอย่างทำให้เสียหลักตกสะพาน โชคดีทุกคนบาดเจ็บเล็กน้อย
นายมงคล แสนวงษา ผอ.แขวงทางหลวงอุดรธานีที่ 2 เปิดเผยว่า สะพานข้ามลำน้ำปาวยังแข็งแรง สามารถใช้งานได้ตามปกติ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นรถบรรทุกหนัก หากเป็นรถยนต์ หรือรถบรรทุกทั่วไป หากเกิดอุบัติเหตุชนราวสะพาน ก็จะไม่ทำให้ราวสะพานเสียหาย และรถไม่ตกลงไปในน้ำ แต่เพราะเป็นรถพ่วง บรรทุกอาหารไก่มาเต็มคัน และยังมีลูกพ่วงน้ำหนักมาก เมื่อน้ำหนักรถปะทะกับราวสะพาน จึงรับน้ำหนักไม่ไหวเสียหายยาว 15 ม. ค่าเสียหายราวเมตรละ 5,000 บาท
“ สะพานข้ามลำน้ำปาวแห่งนี้ เป็นสะพานแบบตอมอเดียว เป็นรูปแบบสะพานกับไม้ซุง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 หรือสร้างมาแล้ว 44 ปี โดยปกติสะพานจะมีอายุราว 50 ปี ในปี 2555 กรมทางหลวงว่าจ้าง ม.จุฬาลงกรณ์ ศึกษาสะพานในภาคอีสาน สะพานข้ามน้ำปาวนี้แม้จะใช้งานหนัก จากรถบรรทุกอ้อย และรถบรรทุกอื่นๆ ยังประสบกับภาวะน้ำกร่อย ทำให้โครงการอายุใช้งานลดลง ซึ่งการศึกษาพบว่าหากคะแนนเต็ม 5 สะพานข้ามน้ำปาวนี้ได้ 3 คะแนน ”
ผอ.แขวงทางหลวงอุดรธานีที่ 2 ตอบข้อซักถามอีกว่า ในปี 2560 กรมทางหลวงได้สำรวจออกแบบ สร้างสะพานข้ามลำน้ำปาวใหม่ ทดแทนสะพานเดิมใช้งานมานาน ประกอบกับมีปริมาณรถมากขึ้น โดยสะพานที่ออกแบบใหม่จะเป็น 4 ช่องทาง หากได้รับงบประมาณสร้าง จะทำการสร้างสะพานคู่ขนานสะพานเดิม จนสร้างเสร็จจึงทุบสะพานเดิมออก และสร้างสะพานเข้ามาเพิ่มเติม เพราะมีข้อจำกัดไม่มีสะพานอื่นอยู่ใกล้ และสะพานปัจจุบันมีระบบไฟฟ้าแรงสูงเกี่ยวข้องด้วย
นายมงคล แสนวงษา ผอ.แขวงทางหลวงอุดรธานีที่ 2 กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสร้างสะพานข้ามลำน้ำปาว 4 เลน ถูกบรรจุเข้าในแผนที่จะต้องก่อสร้าง วงเงิน 200 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 24 เดือน ล่าสุดถูกเสนอบรรจุในร่างงบประมาณ 2564 แต่ไม่ได้รับการบรรจุเข้าไป ซึ่งในปี 65 กรมทางหลวง ยังคงเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณอีก……..