ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 ว่าพายุโซนร้อน “โนอึล” ที่คาดว่าจะเป็นพายุลูกสุดท้าย ในปีนี้ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีความหวังว่าจะเป็นผลดี หากช่วยเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำ แต่ปรากฏว่าฝนตกลงมาในพื้นที่อุดรธานีน้อยมาก ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำสำคัญคือ “อ่างฯห้วยหลวง” ที่มีความจุ 135.5 ล้าน ลบม. และเป็นหัวใจในการผลิตน้ำประปาอุดรธานี มีน้ำไหลเข้ามาเพียง 2 ล้าน ลบม. และมีน้ำอยู่เพียง 44.5 ล้าน ลบม. หรือ 32.8 % เท่านั้น
ขณะที่อ่างฯอื่นก็มีลักษณะคล้ายกัน อาทิ อ่างฯกุดลิงง้อ อ.เมือง ความจุ 6.4 ล้าน ลบม. ซึ่งเป็นแหล่งปลูกพืชผักขนาดใหญ่ และแหล่งปลูกผักปลอดภัย ป้อนตลาดและห้างสรรพสินค้าอุดรธานี มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 1.48 ล้าน ลบม. หรือมีน้ำอยู่เพียง 22.98 % หรืออ่างฯห้วยสามพาด อ.หนองแสง มีความจุ 15 ล้าน ลบม. เป็นแหล่งปลูกพืชผัก(ค้าง) มีปริมาณน้ำเหลือ 7.5 ล้าน ลบม. หรือ 48.10 % และอ่างฯที่มีปริมาณน้ำต่ำกว่า 70 % อีก 7 อ่างฯ
สำหรับอ่างฯที่มีปริมาณมากกว่า 70 % มีอยู่ อ่างฯ ประกอบด้วย ฝายกุมภวาปี (ทะเลบัวแดง) อ.กุมภวาปี , อ่างฯหนองสำโรง อ่างฯบ้านจั่น อ.เมือง , อ่างห้วยทราย อ.น้ำโสม , อ่างฯหนองปะโค อ.กุมภวาปี , อ่างฯลำพันชาด อ่างฯลำพันชาดน้อย อ.วังสาหมอ , อ่างฯห้วยตะคองใหญ่ อ่างฯห้วยน้ำม้า อ.บ้านผือ โดยในภาพรวมของ จ.อุดรธานี อ่างฯ 19 แห่ง ความจุ 338.99 ล้าน ลบม. มีปริมาณน้ำอยู่ 205.13 ล้าน ลบม. หรือ 60.51 % ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา 21.18 %
นาวิชัย จาตุรงค์กร ผอ.โครงการส่งน้ำบำรุงรักษาห้วยหลวง จ.อุดรธานี แจ้งว่า อุดรธานีได้รับอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โนอึล” เพียงเล็กน้อย มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯห้วยหลวง วันที่ 18-20 กันยายนที่ผ่านมาไม่มาก รวมมีน้ำเก็กกักอยู่เพียง 44.45 ล้าน ลบม. หรือ 32.79 % ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำ 93.985 ล้าน ลบม. หรือ 69.33 % ซึ่งตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ฤดูฝนปี 2563 จะสิ้นสุดในราวกลางเดือนตุลาคม 2563
“ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกภาคส่วน ต้องช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะหากต่อไปไม่มีฝนตก หรือน้ำไหลเข้าอ่างฯเพิ่มเติม น้ำที่อยู่ในอ่างฯจะต้องสงวนไว้ในการอุปโภคบริโภค ในช่วงฤดูแล้ง 2563-2564 และขอให้เกษตรกรในพื้นที่ ทำการเก็บกักน้ำไว้ในแปลงนาให้มากที่สุด เพราะใกล้จะถึงเวลาต้นข้าวตั้งท้องออกรวง ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้น้ำมากที่สุด ทั้งนี้โครงการอ่างฯห้วยหลวง จำเป็นต้องงดส่งน้ำเพื่อการเกษตร เว้นแต่จะมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น….
