ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ที่กุฏิพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ที่ถูกไฟไหม้จนเป็นเหตุให้ พระอาจารย์สุดใจ มรณภาพ แม้แพทย์ชันสูตรของ รพ.ศรีนครินทร์ จะยืนยันมรณภาพจากการขาดอากาศหายใจ และสำลักควัน แต่ยังต้องรอผลสรุปจากพิสูจน์หลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี เฝ้าเวรยามควบคุมพื้นที่ พร้อมนำรถโมบายบันทึกภาพวงจรปิด 24 ชม.
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรหมอออกมาแล้ว จากผู้ใช้ชื่อว่า “เป็นตัวแทนพุทธศาสนิกชน” สงสัย 1.เรื่องการชันสูตรพลิกศพ เรามีความชัดเจนว่า ลักษณะร่างกายไหม้ 2.กระดูกและกะโหลกศีรษะไม่มีลักษณะแตกร้าว หักงอ หรือฟกช้ำ 3.ในลำคอและหลอดลม ตลอดถึงปอดมีเขม่าควันดำ 4.ในจุดที่เกิดเหตุมีความลำบากในการนำร่างออกมาแม้ว่าพบท่านแล้ว ต้องใช้เวลาประมาณ 10 นาที
5.ผลการตรวจที่เกิดเหตุ ไม่มีสารเร่งปฏิกิริยาให้เกิดไฟไหม้ พวกน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นเบนซิน หรือดีเซล ซึ่งจะปรากฏหลักฐานด้วยตัวมันเอง เพราะในชั้นสองของกุฏิ ยังคงมีเสื่อน้ำมันปูอยู่ 2 ชั้น เสื่อน้ำมันไม่ได้ถูกไหม้จนหมด กองพิสูจน์หลักฐานได้คุ้ยทีละชั้น และเก็บสารเคมีบางส่วน ขณะเก็บยืนยันว่าไม่ได้พบกลิ่นสารตกค้างที่เป็นปิโตรเคมี และลักษณะเป็นการไหม้ลุกลามปกติ ไม่มีลักษณะไหม้ลามเป็นจุดๆ หรือไหม้พร้อมๆ กันอย่างกรณีวางเพลิง
“ ผมได้รับมอบหมายให้สืบสวนสอบสวน ทำให้ความจริงกระจ่าง มั่นใจว่าดำเนินการครบถ้วน มั่นใจว่าเก็บหลักฐานได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าสรีระสังขารของท่านได้จากไปแล้ว แต่ขอให้มั่นใจในขบวนการ โดยเฉพาะขบวนการชันสูตรพลิกศพได้ผ่านขบวนการแพทย์มืออาชีพ ดังนั้นต้องทำความจริงให้ปรากฏ กับพี่น้องพุทธศาสนิกชน ที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้อยู่ และยังร่วมกับกองปราบสืบค้นความจริงในเรื่องอื่นๆ ขอให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ”
พล.ต.ต.พิษณุ เปิดเผยต่อว่า ส่วนเหตุใดจึงเผาสรีระท่านใน 3 วัน เป็นเรื่องของมติสงฆ์ ฆราวาสไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ยืนยันว่าขบวนการสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หรือพอเกิดขึ้นมาแล้ว หากมีความไม่สบายใจประเด็นใด ขอให้มาพูดคุยหรือรับทราบข้อมูลในสิ่งที่เหมาะควร ถ้าท่านไม่รับทราบ แล้วท่านไปบอกกล่าวในข้อความที่บิดเบือน อันอาจจะก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ท้ายที่สุดท่านเองอาจจะมีความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อมูลใดในวันนี้ถ้าเป็นข้อเท็จจริงที่มีอยู่จริง
พล.ต.ต.พิษณุ ตอบข้อซักถามด้วยว่า กรณีมีผู้แจ้งความกับกองปราบปราม ทางกองปราบได้รับเรื่องไว้แล้ว หากต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ก็ต้องขึ้นมาในพื้นที่ เบื้องต้นกองปราบได้รับข้อมูล ที่ถูกต้องไปบางส่วนแล้ว การจะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ถูกแจ้งความ เป็นเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐาน ที่ต้องพิสูจน์ว่า มีผู้ใดกระทำความผิดคดีอาญาแล้วหรือยัง พยานหลักฐานที่ทางกองปราบ และทาง ภ.จว.อุดรธานี ได้ไปนั้น มีการพิสูจน์ทราบหรือยังว่า มีผู้ใดกระทำความผิด
“ ผู้ที่มีหน้าที่ทราบดีต้องระวัง การแจ้งข้อหาจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีพยานหลักฐาน ว่ามีการกระทำความผิดหรือยัง ถ้าไม่มีความผิด การเสียชีวิตเป็นไปตามที่มีการตรวจสอบแถลงไปแล้ว การเกิดเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากสิ่งที่ไม่ได้เกิดจากการวางเพลิง ก็ต้องยืนยันในข้อเท็จจริงเหล่านี้ว่า ขณะนี้ไม่ได้มีการกระทำความผิดคดีอาญาเกิดขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สืบสวนและสอบสวน ได้ข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ขณะนี้จึงยังไม่มีการแจ้งข้อหา ยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ใด ”
พล.ต.ต.พิษณุ ผู้บังคับการตำรวจ จ.อุดรธานี กล่าวตอนท้ายด้วยว่า ผู้บังคับบัญชาในส่วนกลางสอบถามมา จากการที่มีผู้ที่อยู่กรุงเทพไปกองปราบ คงเพราะยังไม่ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน หากได้รับข้อมูลความจริงทั้งหมดคงเข้าใจ ซึ่งก็แตกต่างจากชาวอุดรธานีในพื้นที่ ที่ได้สัมผัสข้อมูลมากกว่า ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ชาวบ้านลุกฮือ ขึ้นมาล้อมไม่ให้ประกอบพิธี…