ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2562 ศูนย์ปฏิบัติการณ์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี รายงานการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จ.อุดรธานีมีผู้ป่วยยืนยัน 0 ราย ผู้เข้าเกณฑ์เป็นกลุ่มเสี่ยง เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง แล้วมีไข้อุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศา ต้องได้รับการตรวจเสมหะหาเชื้อ (กลุ่มเสี่ยงที่มีอาการไข้) 44 ราย รู้ผลแล้วไม่พบเชื้อ 42 ราย รอผลการตรวจ 2 ราย
ส่วนการเฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง มากักตัวรอดูอาการ(ที่บ้าน) จาก 635 คนเมื่อวานก่อนมาเป็น 669 ราย พ้นระยะการเฝ้าระวัง 14 วัน จาก 199 รายเมื่อวานก่อนมาเป็น 211 ราย โดยยังมีผู้เฝ้าระวังยังไม่ครบอีก 436 ราย พร้อมแจ้งขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือพบเห็นผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอให้ลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค็ด
สำหรับการเตรียมสถานที่ใช้ในการกักตัว ผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ของพื้นที่ จ.อุดรธานี ในส่วนของพื้นที่บ้านรับรอง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาด้วยหลวง คบ.โคกสะอาด ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถนำมาใช้กักตัวได้ เนื่องจากในปีนี้มีภารกิจสำคัญ ซึ่งก่อนมีภาระกิจจะต้องปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารทั้งหมด
ขณะที่ปัญหา “ข่าวปลอม” ได้สร้างความสับสนในข้อมูล และสร้างความหวาดกลัวมากขึ้น ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่ง ต้องทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม , โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชบ้านดุง , โรงพยาบาลชุมชนไชยวาน และโรงพยาบาลชุมชนกู่แก้ว โดยระบุว่าตามที่มีข่าวลือ โรงพยาบาลฯมีผู้ป่วยติดเชื้อ “โควิด-19” เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ รพ.ๆไม่มีนโยบายปิดข่าว ถ้ามีจะต้องมีการสอบสวนโรค และติดตามกลุ่มเสี่ยงอย่างเคร่งครัด ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ป่วย และผู้มารับบริการ ตลอดจนบุคลากรทุกคนของโรงพยาบาล โดยมีการวางแผนรับสถานการณ์ไว้แล้ว หากมีกลุ่มเสียงหรือผู้ป่วยเข้ามารับบริการ ขอให้เชื่อมั่นในระบบคัดกรอง การดูแลรักษาพยาบาล รวมถึงการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงในชุมชน (บางครั้งต้องสวมชุดป้องกันเชื้อกลับกลุ่มเสี่ยง)
ศูนย์ข้อมูลระบาดวิทยาและควบคุมโรค คปสอ.อำเภอบ้านดุง แจ้งว่า พบการโพสและแชร์ข้อมูลเท็จ Fake News มอบหมายให้นายอมรศักดิ์ ศรีวิลาศ ผช.สสอ.บ้านดุง และน.ส.อรอุมา ขวัญเนตร นักวิชาการสาธารณสุข งานระบาดวิทยา และควบคุมโรค รพร.บ้านดุง ติดตามและค้นหา พบผู้ปล่อยข่าวเป็นประชาชนพื้นที่ บ้านคำจำปา ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ยอมรับได้ข้อมูลข่าวจากปากต่อปาก แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อมูล จึงได้นำไปแชร์บนโซเชี่ยวทันที จึงเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตระหนก และกระทบหน่วยที่เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่ได้อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แก่ผู้ใช้ชื่อ “ทองพูน ฟาร์ม” ผู้ทำการโพส Fake News ได้รับทราบและเข้าใจถึงสถานการณ์ ผลกระทบของการกระทำตนเอง ซึ่งผู้ทำการโพส Fake News รับปากจะดำเนินการลบโพส และโพสชี้แจงขอโทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ยังได้อธิบายกระบวนการดำเนินการทางด้านกฎหมายขั้นต่อไป โดยไปแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.สยาม สุธาธรรม พงส.สภ.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย