วันอังคาร, พฤศจิกายน 26, 2024
Google search engine
หน้าแรกศิลปวัฒนธรรม“คุ้มยายพุทธา”อนุรักษ์กวนข้าวทิพย์ออกพรรษา

“คุ้มยายพุทธา”อนุรักษ์กวนข้าวทิพย์ออกพรรษา

คุ้มยายพุทธา ซอยกำนัน เทศบาลอุดรธานี ลูกหลานยังอนุรักษ์ กวนข้าวทิพย์ หรือข้าวสัมปิ ถวายพระในเช้าวันออกพรรษา

เมื่อเช้าวันที่ 12 ตุลาคม 2562 ที่หน้าบ้านชื่นชอบ เลขที่ 146/4 คุ้มยายพุทธา ซ.กำนัน ม.1 ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี นางปานจิตร และนายดาว ชื่นชอบ อายุ 60 ปี สามีภรรยา และลูกหลาน ญาติมิตรสหาย ต่างพากันร่วมแรงร่วมใจกันกวนข้าวทิพย์ หรือชาวอีสานเรียกว่าข้าวสัมปิ (สำ มะ ปิ ) เตรียมไปทำบุญตักบาตรที่วัดในวันพรุ่งนี้เช้า ซึ่งเป็นประเพณีวันออกพรรษา

ที่คุ้มยายพุทธา ตามชื่อของคุณยายพุทธา พิมพ์ภูลาด แม่ของนางปานจิตรฯ เมื่อครั้งมีชีวิตได้นำลูกหลาน กวนข้าวทิพย์ไปทำบุญ ตักบาตรวันออกพรรษาทุกปี โดยเริ่มกันตั้งแต่เช้า นำส่วนผสมต่างๆ อาทิ ข้าวหนุ่มสาว หรือข้าวที่เพิ่งแตกรวงไม่นาน , ถั่ว , งา , ลูกเดือย , เผือก , มัน , ผลไม้นานาชนิด , มะพร้าว และน้ำใบเตยที่ให้สีเขียว มาปั่นรวมกัน ก่อนนำมาใส่หม้อตั้งบนเตาถ่าน กวนด้วยพายก้านมะพร้าวสดราว 6 ชั่วโมง หรือกวนจนข้าวทิพย์ ไม่ติดใบพายจนได้ที่ ก่อนนำไปเทลงใส่ถาด จนเย็นโรยด้วยถั่วลิสง ตัดเป็นชิ้นคล้ายขนมเปียกปูน บรรจงตัดเป็นชิ้นทรงสี่เหลี่ยมเท่ากัน แล้วห่อด้วยใบตอง

นางปานจิตร ชื่นชอบ เล่าว่า ประเพณีกวนข้าวทิพย์ หรือข้าวสัมปิ ภายในตัวเมืองอุดรธานี ยังหลงเหลือให้เห็นน้อยมาก ที่คนในครอบครัว และชุมชน จะร่วมกันกวนข้าวทิพย์เหมือนที่ผ่านมา ส่วนมากจะหาซื้อตามท้องตลาด หรือสั่งทำ นำไปทำบุญกันในวันออกพรรษา แม้จะเหนื่อยแต่ก็สนุก และได้บุญด้วย ส่วนตัวเองเชื่อว่าเป็นกุศโลบายของบรรพบุรุษ ที่ให้ลูกหลานคนในหมู่บ้าน มีความสมัครสมานสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกัน เพราะการกวนข้าวทิพย์ ต้องจับเวลาพลัดกันกวนจนข้าวทิพย์ได้ที่ ไฟในเตาถ่านจะต้องดูให้พอดี ไม่อ่อนหรือแรงจนเกินไป ถ้าไฟแรงข้าวทิพย์ก็ไหม้ ไฟอ่อนข้าวทิพย์ก็จะสุกช้า

” ปีนี้การกวนข้าวทิพย์เสร็จเร็วไม่เกิน 4 ชั่วโมง เพราะสมัยนี้มีเครื่องปั่น ไม่เหมือนสมัยก่อนใช้ครกตำ ประกอบกับทุกคนร่วมแรงใจกันทำ หากทุกคนไม่ร่วมแรงร่วมใจกันกวนข้าวทิพย์ มัวแต่เกี่ยงกัน และคอยกินแรงคนอื่น หรือกวนแบบผิดวิธี ข้าวทิพย์ก็จะไหม้ รสชาติไม่หอมอร่อย คือหม้อ 1 ใบ ใช้ใบพายกวน 2 อัน กวนในลักษณะครึ่งวงกลมวนไปรอบๆให้ทั่วหม้อ ข้าวทิพย์ก็จะไม่เหม็นไหม้ แถมมีกลิ่นที่หอม ส่วนการกวนเมื่อครั้งโบราณ ต้องให้บ่าวสาวพรมจรรย์เป็นคนกวน แต่สมัยนี้หายาก ไม้แรกจึงให้เหลนสาวและชายเป็นคนกวนก่อน จึงให้ผู้ใหญ่กวนตามจนแล้วเสร็จ “……

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments