ธนาคารชุนสุมเส้าเข้าพบตำรวจ ยอมรับชดใช้คืนเงินชาวบ้าน 70 ราย แต่ขอแบ่งทยอยจ่ายเป็นกลุ่ม ส่วนใหญ่ต้องรอขายโรงน้ำดื่มก่อน ชาวบ้านจำยอมตามข้อตกลง ขณะชาวบ้านหลายคนส่วนสุดซ้ำ ศาลพิพากษาแล้ว และศาลนัดไกล่เกลี่ย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2562 ที่ สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นายศิรคม สร้างคำ ครู รร.บ้านหนองไฮโนนสะอาด ประธานสถาบันการเงินเครือข่าย กทบ.ตำบลสุมเส้า” อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พร้อมคณะกรรมการสถาบันฯ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ รอง ผกก.สส. รรท. ผกก.สภ.เพ็ญ และ พ.ต.ต.บุญจันทร์ ไชยชาติ สว.สส.สภ.เพ็ญ หลังจากมีสมาชิกสถาบันฯ 20 ราย เข้าแจ้งความกล่าวหา ฉ้อโกงและยักยอก ไม่เอาเงินไปจ่ายใช้หนี้ธนาคารออมสิน จนชาวบ้านต้องถูกฟ้องร้อง โดยมีสมาชิกมาแจ้งความเพิ่มจำนวนมาก
ภายในห้องสอบสวนขณะที่ นายศิรคม สร้างคำ และคณะกรรมการสถาบันฯ ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ก่อนให้ตัวแทนชาวบ้านแจ้งความวันแรก เข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ก็มีชาวบ้านจำนวนมาก เข้าไปร่วมรับฟังจนเต็มห้อง พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ฯ รรก.ผกก. แจ้งให้ชาวบ้านที่ยังไม่แจ้งความ หรือมาใหม่ในวันนี้ ออกมาด้านนอกเพื่อเขียนบันทึก บนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลความเดือนร้อน และต้องการเบื้องต้น รวมทั้งสิ้นสองวัน 70 ราย
ขณะที่ผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพในห้องสอบสวน ที่มีชาวบ้านจำนวนมากรออยู่เต็มห้อง และมีชาวบ้านถือหมายศาลแขวงอุดรธานี แจ้งถึงคำพิพากษาที่ชาวบ้านต้องชนใช้หนี้ หากไม่ชดใช้หนี้จะทำการบังคับคดี ทำให้ตัวแทนของกรรมการสถาบันฯ ออกมาชี้แจงเบื้องต้นว่า กำลังให้ปากคำและไกล่เกลี่ย พร้อมยืนยันจะแก้ไขปัญหาให้ เกรงจะเกิดความเสียหาย เมื่อให้ปากคำและตกลงกันเรียกร้อย ยินดีจะชี้แจงรายละเอียดที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าทั้งหมดออกไปหลังห้องสอบสวน
นายหนูไพ ภูพันนา อายุ 62 ปี น.ส.นารีกระจ่าง มั่นคง อายุ 29 ปี และนายสมจิต ชุมโคตร อายุ 55 ปี จำเลยที่ 1 , 2 , 3 ที่ศาลแขวงอุดรธานีมีคำพิพากษา ให้ชดใช้หนี้ธนาคารออมสิน พร้อมดอกเบี้ย 124,837.53 บาท ถ้าไม่ชดใช้จะถูกบังคับคดี ร่วมกันเล่าว่า รับชักชวนจากสถาบันฯให้กู้เงิน เพื่อบริโภคของธนาคารออมสิน โดยต้องสมัครเป็นสมาชิกสถาบันฯ จ่ายค่าฌาปนกิจ 3,000 บาท เพื่อให้สถาบันฯรับรองการกู้ และต้องนำเงิน 75,000 บาทมาฝากกับสถาบัน
“ สถาบันฯจะเป็นผู้เดินเรื่อง ให้ทุกคนค้ำกันเพื่อกู้คนละ 150,000 บาท มีสัญญาส่งเงินกู้ 5 ปีๆละ 39,000 บาท เมื่อได้เงินมาเอาไปฝากสถาบันฯ 75,000 บาท สัญญาว่าได้ดอกเบี้ย 2 เปอร์เซ็นต์ โดยสถาบันจะชดใช้หนี้และดอกเบี้ย 19,565 บาท/ปี ผู้กู้ต้องจ่ายหนี้คืนปีละ 1 เท่ากัน หากไม่มีจ่ายจะหักจากเงินฝากที่สถาบันฯ น.ส.นารีกระจ่างฯ และนายสมจิต จ่ายครบทั้ง 3 ปี สถาบันฯนำจ่ายธนาคารแค่ 2 ปี ”
ทั้งสามคนเล่าต่อว่า นายหนูไพฯ ให้สถาบันจ่ายให้ 2 ปีแรก สถาบันก็ไม่เอาเงินไปจ่ายธนาคาร ปีที่สามปรับโครงสร้างหนี้ สัญญาผ่อนชำระเดือนละ 2,000 บาท แต่สุดท้ายธนาคารออมสินก็ฟ้องคนทั้งสาม การไกล่เกลี่ยที่ศาลแขวงอุดรธานี ก็มีคำพิพากษาออกมาใช้ชนใช้หนี้ ในส่วนของนายหนูไพฯ ส่วนผู้ค้ำประกันสองคนก็ต้องรับผิดชอบด้วย โดยธนาคารฯรับรู้เรื่องนี้ดี แต่พอเกิดเรื่องบอกว่าเอาเงินไปให้สถาบันฯทำไม
ต่อมานายณัฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ เดินทางมาพบกับชาวบ้าน ที่บางกลุ่มกำลังตั้งวงอาหารกลางวัน บางกลุ่มยังรวมตัวอยู่ที่หน้า สภ.เพ็ญ โดยแจ้งชาวบ้านว่า ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องไว้ ก็จะดำเนินการไปตามกฎหมาย ในส่วนอำเภอพร้อมจะช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกชาวบ้าน ที่ถูกฟ้องร้องต่อศาลแขวงอุดรธานี ขอให้ไปยื่นเรื่องได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และหากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เข้าพบกับนายอำเภอได้
พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ รอง ผกก.รรท.ผกก.สภ.เพ็ญ ชี้แจงว่า ชาวบ้านยื่นกู้เงินธนาคารออมสิน โดยมีสถาบันฯเป็นผู้รับรอง เมื่อได้เงินต้องเอาไปฝากกับสถาบันครึ่งหนึ่ง ชาวบ้านแจ้งความไว้หลายประเด็น ตำรวจก็รวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนคดียักยอกที่ยอมความได้ กรรมการสถาบันฯเดินทางมาพบตำรวจ ยอมรับที่จะทำการไกล่เกลี่ย โดยชาวบ้านมีความเสียหายต่างกัน จึงทำข้อตกลง 4 กลุ่ม โดยสถาบันต้องจ่ายค่าดอกเบี้ย และค่าปรับของธนาคารฯด้วย
“ กลุ่มแรก ชาวบ้านเอาเงินไปส่งสถาบันฯ แต่สถาบันไม่นำส่งธนาคาร จะมีการชดใช้ในวันที่ 25 กันยายนนี้ จากนั้นชาวบ้านจะไปผ่อนกับธนาคารเอง , กลุ่มที่สอง เงินฌาปนกิจ 3,000 บาท จ่ายศพละ 30,000 บาท ได้จ่ายศพสุดท้าย 21 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นจะไม่จ่าย แต่จะคืนเงิน 3,000 บาทให้สมาชิก ภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ , กลุ่มที่สาม เงินชาวบ้านฝากไว้สถาบันที่เหลือไม่เท่ากัน สถาบันจะขอขายโรงน้ำดื่มนำเงินมาคืน ระหว่างนี้จะผ่อนธนาคารให้รายละ 2,000 บาทต่อเดือน จนกว่าจะขายได้ และกลุ่มสี่ เงินสัจจะ 1,200 บาท จะคืนให้เมื่อพ้นจากสมาชิก ”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีปัญหาชาวบ้านที่จะต้องไปขึ้นศาล เพื่อไกล่เกลี่ยกับธนาคารออมสิน , ปัญหาที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง นำเงินมาฝากไว้กับสถาบันอีก 10 หมู่บ้าน ที่ยังไม่ได้มาทำข้อตกลงด้วย….
