เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2562 ที่ห้องประชุมปฏิบัติการ 1 ชั้น 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการป้องปรามเงินนอกระบบ โดยมีนายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี นำคณะอนุกรรมการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณี บ.เกศกัญญา ฟาร์ม จก. โดยเชิญผู้เสียหายมาให้ข้อมูลต่อที่ประชุม
ที่ประชุมรายงานว่า มีการตรวจสอบพบพฤติกรรม ชักชวนในพื้นที่และต่างจังหวัด ปลูกต้น “ถั่วดาวอินคา” ต่อมาชักชวนร่วมโครงการ รับเงินช่วยเหลือจากองค์กรระดับโลก มีการเก็บค่าสมัคร เรียกเก็บค่าใช้จ่ายหลายรูปแบบ และร่วมทำกิจกรรมต่างๆ เชื่อว่ามีผู้หลงเชื่อมากกว่า 60,000 ราย เมื่อตรวจสอบไปยังหน่วยงานที่อ้าง ตามเอกสารที่มีการแจกจ่าย พบว่าไม่มีโครงการดังกล่าว จึงประชาสัมพันธ์ประชาชน ที่ได้รับความเสียหายมาแจ้งความได้
มีผู้เสียหายกลุ่มแรกมาแจ้งความเพียง 37 ราย ความเสียหาย 10 ล้านบาท พนักงานสอบสวน สภ.บ้านผือ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายเรียก น.ส.เกศกัญญา เหล่าอำนาจ , ด.ต.เศรษฐสัณห์ เหล่าอำนาจ , นางวรัญรัตน์ เหล่าอำนาจ , นายภูวดล ภูดิน และ บริษัท เกศกัญญา ฟาร์ม จำกัด เมื่อมาพบได้แจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม , ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม
ด.ต.เศรษฐสัณห์ เหล่าอำนาจ ผบ.หมู่ สภ.บ้านผือ ถูกตั้งกรรมกรรสอบสวนการต้องคดี และมีคำสั่งย้ายไป ภ.จว.นครพนม ส่วนคดี ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้องต่ออัยการ ผู้ต้องหาไม่ไปตามนัดของอัยการ จึงถูกออกหมายจับนำตัวมาดำเนินคดี ขณะที่มีผู้เสียหายกลุ่มที่ 2 มาแจ้งความเพิ่ม 21 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐาน และยังมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี ขณะในระหว่างถูกดำเนินคดี ผู้ต้องหายังคงจัดกิจกรรมในพื้นที่ และต่างจังหวัด มีชาวบ้านเข้าร่วมจำนวนมาก
นายสุรชาติ คูณเมือง กลุ่มผู้เสียหายแรก เล่าในที่ประชุมว่า สมัครเป็นสมัครเป็นสมาชิก ของกลุ่ม จ.หนองบัวลำภู 21 คน จ่ายเงินค่าสมัครเป็นหลักร้อย เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือจาก “ยูเอ็น” จว.ละ 20,000 ล้านบาท จากนั้นได้ค่าเดินบัญชี 10,000 บาท ค่าดอกเบี้ยล่วงหน้าอีก 60,000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่ากลุ่ม 100,000 บาท และกิจกรรมอื่นๆต่อเนื่อง รวมแล้วเสียหายกับคนละ 1 แสนบาทเศษ
“ ตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านผือ พบว่าตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว รวมทั้งเอกสารยืนยันเอกสารยูเอ็นปลอม รอเพียงแค่มีผู้เสียหายไปแจ้งความ จึงไปชักชวนสมาชิกรายอื่น แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ เพราะยังเชื่อว่าจะได้เงินจากยูเอ็นจริง ขณะที่แกนนำก็จัดกิจกรรมมากขึ้น หาเรื่องโกหกมาหลอกเอาเงินเพิ่ม แถมยังเอาเอกสารเท็จมาหลอกชาวบ้าน ว่าเป็นคนของยูเอ็น ไม่มีใครสามารถจับกุมได้ และจะดำเนินคดีกับผม และ ผกก.สภ.บ้านผือ พร้อมจะให้ข้อมูลเครือข่ายขบวนการนี้ เพื่ออยากให้ทะลายให้สิ้นซาก ”
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เราได้มีการพูดคุยเรื่องนี้มาก่อน เพื่อเดินหน้าคดีของพนักงานสอบสวน ติดตามตัวมาดำเนินคดี ในพื้นที่อุดรธานียังไม่ปรากฏมากในนาม “เกศกัญญา” แต่ในพื้นที่อื่นเป็นเครือข่ายรับไปทำแทน ต่างจังหวัดหลายรายมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี เพราะเป็นว่าเป็นที่ตั้งของแม่ข่าย วันนี้มาคุยกับในฐานะอนุกรรมการป้องปรามเงินนอกระบบ ว่าเราจะเอากฎหมายอะไร เพื่อคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบ ก็ได้แบ่งคณะทำงานกันแล้ว
“ ข้อมูลที่เอาเอกสารมาหลอก ว่าเป็นเงินช่วยเหลือจากยูเอ็น เพื่อให้เงินทุกด้านอาชีพ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไปยังต้นทาง ยืนยันว่าเอกสารที่มีการใช้อ้าง เป็นเอกสารเท็จไม่ใช่ความจริง ก็ได้แจ้งให้ชาวบ้านอย่างลงเชื่อ นอกจากที่ จ.อุดรธานี ยังจะแจ้งไปยังจังหวัดต่างๆ ที่เราพบว่าขบวนการนี้ไปที่จังหวัดนั้นๆ ”