รง.น้ำตาล อ้างน้ำไหลลงห้วยพังพวน เป็นอุบัติเหตุของบ่อน้ำดิบ แต่ปลาก็ยังตายทุกวันไม่หยุด ประมงเก็บตัวอย่างน้ำ-ปลา พิสูจน์หาผู้รับผิดชอบ ระบุออกซิเจนเหลือ 0 ปลาน่าจะตายทั้งหมด รักษาการอุตสาหกรรม แจงเสนอปรับน้ำเสียไหลออก 2 แสน รอบสองสั่งให้ปิดทางน้ำแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 มีนาคม 2562 นายไพฑูรย์ ไชยา หน.กลุ่มบริหารงานประมง นางนพมาศ เจียวตั้ง นักวิชาการประมงชำนาญการ สนง.ประมง จ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางลงตรวจเก็บตัวอย่างน้ำและปลา ในลำห้วยพังพวน บริเวณไหลผ่านบ้านสระคุ ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี หลังจากมีน้ำเสียไหลออกจากโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี ต.คำบง อ.บ้านผือ ลงสู่ลำห้วยฯทำให้ปลาตาย และน้ำมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ตลอดระยะทาง 3-4 กม.
โดยมีนายสำนวน อ่อนขาม และนายณรงค์ชัย เลี้ยงพรม ผญบ.และ ผช.ผญบ.บ้านสระคุ นำคณะจาก สนง.ประมง จ.อุดรธานี ตรวจคุณภาพน้ำจุดไหลผ่านริมถนน บ.สระคุ –บ.โนนอุดม ต.หนองหัวคู พบว่าค่า PH 8.5 , ค่าความเป็นด่าง 527 (ปกติอยู่ระหว่าง 70-100) และค่าออกซิเจน 1 (ปกติ 7-8 และต่ำสุดไม่เกิน 3) จากนั้นเดินสำรวจลงไปตามกระแสน้ำ 500 ม. จนไปถึงฝายน้ำล้น พบปลาตะเพียงขาว , ปลาขาวบ้าน และปลาขาวเล็ก ลอยตายเป็นระยะ
และจากฝายน้ำล้นซึ่งเป็นพื้นที่ของ “อ่างเก็บน้ำบังพวน” อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ก็ยังมีปลาตายที่ฝายน้ำล้น เป็นระยะยาวไปถึงลำห้วยธรรมชาติ พบปลากระสูบจุดขนาดตัวละครึ่งกิโลกรัม จำนวน 3 ตัว น่าจะเป็นฝูงปลารุ่นเดียวกัน ลอยตายอยู่เหนือน้ำ โดยพบว่าสภาพปลายังสมบูรณ์ ไม่มีบาดแผลทำให้ตาย จึงเก็บตัวอย่างตัวที่ไม่เน่าไป 1 ตัว พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำขึ้นมา ตรวจสอบคุณภาพ
นางนพมาศ เจียวตั้ง นักวิชาการประมงชำนาญการ สนง.ประมง จ.อุดรธานี ชี้แจงว่า ได้รับแจ้งวันนี้จึงออกมาตรวจสอบ สอบถามรู้ว่าเกิดเหตุมามากกว่า 1 สัปดาห์ จากสภาพน้ำเป็นสีน้ำตาล มีกลิ่นเหม็นชัดเจน การตรวจสอบคุณภาพน้ำ สามารถอธิบายได้ว่า สภาพน้ำช่วงกลางคืนออกซิเจนอาจจะถึง 0 ปลาก็จะเริ่มตายแล้วลอยขึ้นตอนเช้า สายๆเริ่มมีแดดออกซิเจนในน้ำจะเพิ่มขึ้น จนก่อนมืดก็จะดีที่สุด ตกกลางคืนออกซิเจนลดลงอีกก็ตายอีก
“ ปลาบริเวณนี้น่าจะตายเกือบหมด โดยเฉพาะกลุ่มปลากระสูบ ปลาตะเพียน หรือปลาขาวเล็กๆ จะเหลือเฉพาะปลาที่ทนมากๆ อาทิ ปลาหมอ และปลากระดี่ จากนั้นก็จะทยอยตายลงเรื่อยๆ หากไม่นำปลาที่ตายขึ้นมา และมีฝนตกลงมาช่วย หรือจะต้องรอให้น้ำในลำห้วยแห้ง ยาวไปจนตลอดแล้งไปจนฝนตก น้ำใหม่ก็จะกลับเข้ามาในห้วย ปลาและสัตว์น้ำในอ่างฯบังพวน ก็จะย้อนขึ้นมาทำให้ธรรมชาติดีขึ้น ”
นายไพฑูรย์ ไชยา หน.กลุ่มบริหารงานประมง สนง.ประมง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า การตรวจเก็บตัวอย่างน้ำ และสัตว์น้ำ เพื่อไว้เปรียบเทียบกับข้อมูล ของ สนง.สิ่งแวดล้อมภาค 9 อุดรธานี ว่าสาเหตุของน้ำเสีย จนทำให้สัตว์น้ำ และปลาตาย เกิดจากสาเหตุใด ประกอบการดำเนินคดี เรียกร้องชดเชยความเสียหายต่อไป
นายชัชพงษ์ ศิริรักษ์ หน.กลุ่มโรงงานฯ รักษาการอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานน้ำตาล “ไทยอุดรธานี” ต.คำบง อ.บ้านผือ หลังจากชาวบ้านร้องเรียน ปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน , กลิ่นเหม็น , ฝุ่นละออง , ปัญหาจราจร และแสงสว่างริมถนน การตรวจสอบพบว่าน้ำเสียไหลออกจากโรงงานจริง จึงมีคำสั่งตาม ม.37 พรบ.โรงงาน ให้ปิดทางน้ำไหลออกจุดดังกล่าว แจ้งข้อหาปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน โรงงานรับสารภาพและแก้ไข ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมกรในส่วนกลาง พิจารณาให้ปรับซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด 200,000 บาท
“ ทั้งนี้น้ำเสียที่ไหลออกนอกโรงงาน เกิดจากอุบัติเหตุในกระบวนการผลิต โรงงานแก้ไขปิดทางน้ำออกแล้ว ส่วนที่ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย และยังส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็น ซึ่งนายชัชวาลย์ ปทานนท์ นายอำเภอบ้านผือ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจาก 3 ฝ่าย ซึ่งมีนายอำเภอบ้านผือ เป็นประธานคณะกรรมการ เข้ามาพิจารณาชดเชยความเสียหาย แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็น รวมทั้งฝุ่นละออง , ปัญหาจราจร และแสงสว่างริมถนน ซึ่งอยู่ในระหว่างการทำงานของกรรมการ ”
รักษาการอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า ส่วนน้ำที่ไหลลงไปยังทำห้วยพังพวน โรงงานแจ้งว่าน้ำไหลออกจาก “บ่อน้ำดิบ” ไม่ใช่บ่อบำบัดน้ำเสีย ไม่ใช่จุดเดิมที่ร้องเรียนครั้งแรก และเกิดจากอุบัติเหตุเช่นกัน สนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ได้มีคำสั่งตาม ม.37 ให้ทำการปิดทางน้ำไหล ไม่ให้น้ำไหลออกจากโรงงาน พร้อมกับเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจสอบ สัปดาห์หน้าจะไปดูว่าแก้ไขแล้วหรือยัง ซึ่งเรื่องนี้นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.อุดรธานี กำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
