เมื่อเวลา 17.05 น.วันที่ 27 พฤศจิกายน ร.ต.อ.อุดมพล โพธินันท์ รอง สว.สอบสวน สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนชาวบ้าน เลขที่ 11 หมู่ 2 บ้านหนองนาไฮ ต.สุมเส้า เพลิงได้ลุกลามไปติดบ้านเรือนใกล้เคียง และมีผู้เสียชีวิตอยู่ในกองเพลิง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วุฒิศักดิ์ รองเมือง ผกก.สภ.เพ็ญ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลสุมเส้า นำรถดับเพลิง อาสากู้ภัยสว่างเมธาธรรมรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เพลิงกำลังโหมลุกไหม้ และลามไปบ้านเรือนใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องจากเป็นบ้านไม้ จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัด แต่เพลิงลุกลามไปไหม้บ้านเลขที่ 101 ซึ่งอยู่ติดกัน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พบบ้านเรือนถูกเพลิงไหม้ไปเสียหาย 2 หลัง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบมีผู้เสียชีวิตถูกเผาไหม้ดำเป็นตอตะโกในกองเพลิง ทราบชื่อว่านางผัน มณี อายุ 96 ปี ป่วยเป็นอัมพาตอยู่ในบ้าน
สอบสวนนายจ่อย จันทะนา เจ้าของบ้านเลขที่ 101 ผู้เสียหายและเห็นเหตุการณ์ ให้การว่า บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านนายบุญเส็ง ชาวกล้า และนางแสง มณี ขณะเกิดเหตุทั้งสองไม่อยู่บ้าน มีเพียงนางผัน มณี อายุ 96 ปี ป่วยอัมพาตนอนอยู่ภายใน ก่อนเกิดเหตุ ขณะตนยืนอยู่หน้าบ้าน ได้ยินเสียงคล้ายระเบิด 1 ครั้งออกมาจากบ้านต้นเพลิง ซึ่งอยู่ห่างบ้านตนประมาณ 3 เมตร จากนั้นก็เห็นเพลิงลุกไหม้ห้องโถงชั้นล่าง ตนจึงวิ่งเข้าไปช่วยนางผัน ซึ่งนอนอยู่ห้องชั้นล่าง แต่ประตูห้องนอนล๊อคกุญแจ จึงช่วยนางผันออกมาไม่ได้ ตนจึงวิ่งออกมาร้องตะโกนให้คนช่วย แล้ววิ่งไปขนสิ่งของออกจากบ้าน ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้ลามมาเผาบ้านตนจนวอดทั้งหลัง และคลอกนางผันเสียชีวิตในกองเพลิง
ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากบ้านเกิดเหตุ มีอายุกว่า 55 ปี เป็นบ้านไม้ และไม่ได้เปลี่ยนสายไฟ อาจจะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร และลุกไหม้บ้านทั้งหลังคอกนางผัน ซึ่งนอนป่วยเป็นอัมพาตจนเสียชีวิตในกองเพลิง ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แน่ชัดอีกครั้ง