ผู้สื่อข่าวรายงานมาเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2561 อีกมากกว่า 10 วันจึงจะถึงวันออกพรรษา มีเด็กได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัด “ลูกบอล” รุนแรง ถูกส่งมารักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานีแล้ว 3 คน แม้ว่าจังหวัดอุดรธานีเคยมีมาตรการ ห้ามไม่ให้จำหน่ายประทัดมีความรุนแรง อาทิ ประทัดลูกบอล หรือประทัดไล่นก โดยในการออกใบอนุญาตจำหน่ายประทัด-ดอกไม้ไฟ จะเพิ่มเติมข้อห้ามจำหน่ายไว้ และเข้มงวดกวดขันให้ปฏิบัติตาม มาตั้งแต่ปี 2559 แต่ก็ยังมีประทัดลูกบอลจำหน่าย โดยเฉพาะในต่างอำเภอ จนเป็นเหตุให้ปีนี้มีผู้บาดเจ็บและพิการแล้ว
รายแรก วันที่ 9 ตุลาคม น้องต้นหลิว อายุ 10 ขวบ ที่บ้านฝาง ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ไปเล่นประทัดกับเพื่อนรุ่นพี่ที่บ้านย้าย โดยไปซื้อประทัดลูกบอลจากตลาดบ้านดุง 10 ลูกๆละ 1 บาท นำมาแกะออกรวมกันเรียกว่า C4 แล้วให้เพื่อนจุดตนเองโยน แต่ประทัดระเบิดก่อน ทำให้อุ้งมือขาวแตก นิ้วโป้ง ชี้ นาง กระดูกแตก ข้อนิ้วกลางขาด สภาพพิการถาวร
รายที่สอง วันที่ 13 ตุลาคม น้องกาญจน์ อายุ 11 ปี ม.9 ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี เดินผ่านไม่ได้เล่นประทัดเอง ถูกคนอื่นโยนประทัดลูกบอลใส่ สะเก็ดประทัดที่เป็นพลาสติก กระเด็กถูกดวงตาขวา หลังจากตรวจรักษาต้องรอดูอาการ
รายที่สาม เป็นเด็กชาย อายุ 13ปี บ้านอุ่มจาน ต.อุ่มจาน อ.ประจักษ์ศิลปาคม ซื้อประทัดลูกบอล 10 บาท เทดินปืนรวมกัน และจุดเอง โยนทิ้งไม่ทันจึงระเบิดก่อน ถูกมือซ้าย นิ้วชี้ นิ้วกลางและต้นคอด้านหลัง
สำหรับสถิติผู้บาดเจ็บจากประทัด ที่เริ่มรุนแรงมากในช่วงปี 2555-2558 รวมแล้ว 4 ปีมีผู้บาดเจ็บมากถึง 488 ราย โดยปี 58 เจ็บ 156 พิการ 25 ตาย 2 คน หลังจากมีคำสั่งห้ามจำหน่ายประทัดลูกบอล เพราะสถิติเห็นได้ชัดว่า ผู้บาดเจ็บ 81.77 เปอร์เซ็นต์เกิดจากประทัดลูกบอล ที่เหลือเป็นประทัดอื่นๆอีก 8 ชนิด ทำให้ในปี 2559 มีผู้บาดเจ็บเพียง 41 ราย พิการ 3 (ตาบอด นิ้วขาด) และในปี 2560 เหลือเพียง 23 ราย พิการ 5 (ตามองไม่ชัด-นิ้วขาด) แต่ปีนี้ยังมีขายอยู่ ทำเด็กบาดเจ็บไปแล้ว 3 พิการทันที 1 รอดูอาการจะพิการหรือไม่อีก 1
