สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงต่อสื่อที่ศูนย์เคนเนดี กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ว่า เขาพร้อมจะเดินหน้าผลักดันการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างจริงจัง โดยเตือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียว่า หากไม่ตกลงยุติสงครามภายหลังการประชุมสุดยอดที่มีกำหนดจัดขึ้นที่รัฐอลาสกาในวันศุกร์นี้ “จะมีผลร้ายแรงอย่างมากตามมา”
ทรัมป์เปิดเผยว่า เขากำลังพิจารณาการจัด การพบปะรอบสอง ที่จะมีทั้งปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเข้าร่วม พร้อมย้ำว่าการพบปะดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการประชุมในอลาสกา โดยเขามีแผนที่จะโทรศัพท์หารือกับเซเลนสกีและผู้นำยุโรปทันทีหลังการพบปะกับปูตินในวันศุกร์
“ผมอยากให้เกิดขึ้นแทบจะทันที และถ้าพวกเขาต้องการให้ผมเข้าร่วมด้วย เราก็จะมีการพบปะครั้งที่สองโดยเร็ว” ทรัมป์กล่าว พร้อมเสริมว่า การสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำยุโรปและยูเครนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าเป็น “การหารือที่ดีมากๆ ให้คะแนนเต็มสิบ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีต่อรัสเซียและยูเครน ทรัมป์ตอบอย่างชัดเจนว่า “หากปูตินไม่ตกลงยุติสงครามหลังการประชุมในวันศุกร์ ผลลัพธ์จะร้ายแรงมาก” เขายังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตนผิดหวังหลังการพูดคุยกับปูตินในอดีต โดยเฉพาะการที่รัสเซียยิงจรวดใส่บ้านพักคนชรา ตึกอพาร์ตเมนต์ และเป้าหมายพลเรือน จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังสอบถามถึงรายงานกรณีรัสเซียถูกกล่าวหาว่าแฮกระบบคอมพิวเตอร์จัดการเอกสารของศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ทรัมป์ระบุว่า ประเด็นนี้จะถูกหยิบยกขึ้นหารือกับปูตินโดยตรงในการพบปะที่อลาสกา
การประชุมสุดยอดครั้งนี้ถูกจับตาจากนานาชาติว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อทิศทางสงครามรัสเซีย–ยูเครน โดยหลายฝ่ายรอดูว่าคำเตือนของทรัมป์จะกดดันเครมลินได้มากน้อยเพียงใด
ข้อมูลจาก : https://themainstream.news/international/14786/