วันอังคาร, มิถุนายน 17, 2025
Google search engine
หน้าแรกสังคมพืชสวนอุดรงานสร้างเกินแผนเล็กน้อย

พืชสวนอุดรงานสร้างเกินแผนเล็กน้อย

ความคืบหน้า การเตรียมความพร้อม งานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.69-14 มี.ค.70 ซึ่งจะต้องส่งงานให้ AIPH ก่อนเปิดง่านราว 3 เดือน หรือเหลืออีกเพียง 500 วันเศษ เพื่อนำเอาความคืบหน้าจริงๆ มาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง ลดกระแสของโซเชียลต่างๆ ที่นำเสนอข้อมูลเก่า และไม่ถูกต้อง จนบั่นทอนความตั้งใจของคนทำงาน

โดยสัปดาห์ก่อน(12 มิ.ย.68) นายรพีพัฒน์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ที่ติดตามงานมหกรรมพืชสวนโลกมา กับอุดรธานีมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่ในช่วงสามเดือนที่ผ่าน นายพีรพัฒน์ฯ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ไม่ได้เข้ามาเกาะติดเรื่องนี้โดยตรง เพราะถูกส่งไปแก้ไขปัญหา “พบทุเรียนไทยมีสารตกค้างไปโผล่ที่ประเทศจีน” จีนได้ยกเลิกสินค้าล็อตนั้น และประกาศตรวจเช็คสินค้าเข้มข้น จนถึงตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว ก็กลับติดตามเรื่องที่อุดรธานีต่อ

นายรพิพัฒน์ฯ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงตรวจสถานที่จัดงาน “พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด” ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้า การเตรียมความพร้อม ตั้งแต่เรื่องของการก่อสร้าง การปรับพื้นที่เพิ่มเติม แล้วการจัดสวน และภูมิสถาปัตย์ ตามที่กรมวิชาการเกษตร ทำสัญญาว่าจ้างกับกิจการร่วมค้า เอ็นบีเอ็น. ประกอบด้วย บริษัท เมทริกซ์ จำกัด(มหาชน) , บริษัท บอริส จำกัด และบริษัท นงนุชแลนด์สเคปแอนด์การ์เด้นดีไซน์ จำกัด สัญญาเริ่ม 1 พฤษภาคม 2068 สิ้นสุดสัญญา 14 มีนาคม 2570 ซึ่งก็แบ่งรวมเวลาเป็น 2 ส่วนๆแรก การสร้าง 510 วัน ส่วนที่สองเรื่องบำรุงรักษาระหว่างการจัดงานอีก 173 วัน วงเงินที่รับจ้าง 1,693 ล้านบาท

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เดินทางมาพร้อมกับคณะกรรมการฯ คณะทำงานฯ บริษัทที่ปรึกษา ตลอดจนหน่วยงานของอุดรธานีที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้รับจ้างฯกิจการร่วมค้า เอ็นบีเอ็น. มาชี้แจงตลอดจนตอบข้อซักถาม ซึ่งสภาพโดยทั่วไป ยังคงมีการปรับพื้นที่บางส่วน เพิ่มเติมนอกเหนือจากผังแม่บทเดิม ขยับมาตามผังแม่บทใหม่ ตามด้วยการสร้างถนนภาย สายหลัก-สายรอง เพื่อจะเชื่อมไปหาจุดต่างๆ ภายในพื้นที่การจัดงาน เริ่มต้นของการปรับพื้นที่ 2 จุด บริเวณสระน้ำหรือแหล่งน้ำภายในของหนองแด แบ่งเป็นบริเวณน้ำที่อยู่ทางเข้า จุดประชาสัมพันธ์ จุดจำหน่ายบัตร ที่ข้ามสะพานไปยังอาคารประชาสัมพันธ์

อีกจุดคือตัวแหล่งน้ำภายใน ที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ป่าปุ่ง-ป่าทาม หรือว่าสวนพื้นที่ชุ่มน้ำที่รายล้อมด้วยอาคาร ไม่ว่าจะเป็นอาคารสวนนานาชาติ สวนองค์กร แล้วก็พื้นที่จำลองน้ำตก ในส่วนนี้สวนนงนุชได้ไปนำเอาหินทรายขนาดใหญ่ มาเรียงทับกันอยู่บริเวณตลิ่งโดยรอบทั้งสองแหล่งน้ำ ซึ่งได้วางเรียงทับซ้อนกันเกือบครบทั้งหมดแล้ว ยังเหลือบางส่วนที่อาจจะต้องปรับแต่งให้สวยงามขึ้น นอกจากนี้ในบางพื้นที่ เริ่มมีการปลูกต้นไม้ขนาดกลาง ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ กระจายไปตามจุดต่างๆ

นอกจากนี้มีการก่อสร้างอาคารอยู่ 3 หลัง อาคารแรก อาคารประชาสัมพันธ์ ที่เป็นอาคารอยู่บริเวณเชิงสะพานที่ก้าวข้ามจากทางด้านจุดจำหน่ายตั๋วข้ามสะพานไป ส่วนอาคารหลังที่สอง อาคารอำนวยการซึ่งเป็นอาคารหลัก ที่เป็นรูปลักษณะเหมือน “ไซดักปลา” และอาคารสวนนานาชาติ ทั้ง 3 อาคาร อยู่ระหว่างการตอกเสาเข็ม เทฐานราก และตั้งเสาแล้ว จากระยะเวลาเพียง 1เดือน 10 วัน การปรับภูมิทัศน์และจัดสวน มีความคืบหน้าไปมาก สำหรับถนนและอาคาร ก็มีความคืบหน้าเช่นกัน แต่น่าจะเร่งรัดงานในส่วนนี้ได้อีก

จากนั้นในช่วงบ่ายก็มีการประชุม 2 ส่วน ที่ห้องประชุมสบายดี ชั้น 4 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี ส่วนแรก คือ การประชุมของกรมวิชาการเกษตร ส่วนที่สอง คือ การประชุมในห้องเดียวกัน เป็นการประชุมของคณะกรรมการฯ คณะทำงานฯ โดยมีนายรพีพัฒน์ฯ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานฯ นำทีมจากกรมวิชาการเกษตร และนายณัฐพล วิถี รอง ผวจ.อุดรธานี นำคณะของอุดรธานี ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึง ทีมที่ปรึกษา ผู้รับจ้าง และออแกนไนส์เซอร์ ขอกระโดดข้ามตอนทักทายกัน มาสู่เรื่องที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รายงานโดย น.ส.กาญจนา ทองนะ ผอ.สถาบันวิจัยพืชสวน รายงานความคืบหน้าในสองส่วน

ส่วนแรก คือ ส่วนธุรการหลังจากมีการปรับปรุงผังแม่บท ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาฯ ว่าจ้างกิจการร่วมค้า เอ็นบีเอ็น. ลงนามในสัญญาเริ่มทำงาน 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา และยังพูดถึงเรื่องของการใช้จ่าย ตามวงเงินงบประมาณ ประเด็นที่ 2 เรื่อง จ.อุดรธานี มีหนังสือไปถึงกรมวิชาการเกษตร ขอให้มีการเพิ่มเติมการก่อสร้าง ที่อาจจะตกหล่นจากแผนแม่บทเดิม โดยขอให้กรมวิชาการเกษตรเป็นต้นเรื่อง ของบประมาณที่ภาคการเมืองของอุดรธานี ได้ประสานรับ “งบประมาณกลางนายกรัฐมนตรี” กรมวิชาการเกษตรต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะเดียวกันยังตั้งข้อสังเกต เรื่องถนนรูปตัว “แอล” บริเวณด้านขวาของพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ยังมีพื้นที่เหลืออยู่จากมีการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขบริเวณนี้หรือไม่

นายณฐพล วิถี รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ชี้แจงว่า ในความห่วงใยขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เสนอให้มีการเพิ่มเติมถนนทางเข้า , อาคารส่งนักท่องเที่ยว และสะพานจากแบบที่มีความกว้างเพียง 6 เมตร น่าจะไม่เพียงพอกับช่วงมีผู้เข้าชมจำนวนมาก ขอเพิ่มสะพานอีกหนึ่งสะพาน นอกจากนี้ยังขอให้ก่อสร้างเส้นทางเชื่อมไปยังสามหมู่บ้าน เพื่อใช้ประโยชน์ในการระบายผู้คนหรือรถ เข้าออกบริเวณการจัดงานได้สะดวกยิ่งขึ้น ก่อนสรุปว่าในส่วนของถนนทางเข้า และอาคารส่งนักท่องเที่ยว ได้ตัดออกไปแล้ว จะเหลือเพียงแค่สะพานเดินเข้า ทั้งถนนที่เชื่อมหมู่บ้านอีกสามหมู่บ้าน

นายรพีพัฒน์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในที่ประชุมว่า 1.เดินทางมาเพื่อมาสานต่องานให้เสร็จสมบูรณ์ หลังจากว่างเว้นมาประมาณสามเดือน 2.ได้พบกับทุกฝ่ายในพื้นที่ รวมทั้งผู้ประกอบการ ท่ามกลางดินโคลนจากฝนที่ตกลงมา , 3. ก็น่ายินดีการทำงานคืบหน้าไปมากกว่าแผน แม้จะอยู่ในช่วงฝนตกก็ตาม หากฝนผ่านพ้นไปแล้ว ก็จะกลับมาทบทวนแผนงานใหม่ อาจจะมีการก่อสร้างเร็วกว่าแผนที่ทำไว้ , 4. ไม่ขัดกับงานเพิ่มของ อบจ.อุดรธานี แต่จะให้ผ่านคณะกรรมการกำกับชุดใหญ่ด้วย และหากดำเนินการได้ ขอให้หาผู้รับจ้างที่แยกจากการรับจ้างเดิม ให้สัญญาเดิมเป็นหลักอยู่แล้ว , 5.มั่นใจว่าการรายงานไปให้ AIPH ครั้งต่อไปจะผ่านๆไปด้วยดี เพราะเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และ 6.ให้ยึดระเบียบกฎหมานอย่างเคร่งครัด…

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments