เที่ยวบินอุดรธานี-อู่ตะเภา หายไปตั้งแต่โควิด-19 “ไลออนแอร์” ตัดสินใจกลับมาบินอีกครั้ง เริ่มสัปดาห์ละ 3 วัน ททท.จับมือ จ.ระยอง ชวนอีสาน สปป.ลาว บินข้ามภาคเที่ยวทะเล-กินซีฟูดส์-ชิมผลไม้
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมทุ่งศรีเมือง โรงแรมเซ็นทาราอุดรธานี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย ททท.สำนักงาน จ.ระยอง จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว เชื่อมโยงข้ามภาคเส้นทางระยอง-อุดรธานี มีนายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานฯนำ ททท.อุดรธานี , สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอุดรธานี , หอการค้า-สภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวอุดรธานี ให้การต้อนรับ ททท.ระยอง , ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา , พันธมิตรเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จ.ระยอง , ผู้แทนสายการบินไลออนแอร์ และผู้แทนสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวนครเวียงจันทร์

กิจกรรมครั้งนี้ได้ประสานนำพันธมิตรเครือข่าย ธุรกิจท่องเที่ยวจาก จ.ระยอง เดินทางมาร่วมกิจกรรมในระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2568 เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ สินค้าและบริการการท่องเที่ยวใน จ.ระยอง พร้อมสร้างเครือข่ายและเจรจาธุรกิจ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน ผ่านการเดินทางเชื่อมโยงทางอากาศ จากเดิมที่เคยมีการบินข้ามภาคเส้นทางอู่ตะเภา-อุดรธานี โดยสารการบินแอร์เอเชีย แต่ก็ต้องหยุดการบินไปตั้งแต่เกิดสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ล่าสุดสายการบิน “ไลออนแอร์” สนใจเปิดเส้นทางบินข้ามภาคนี้อีกครั้ง โดยกำหนดระเริ่มบินวันที่ 11 มิถุนายนที่จะถึงนี้ เริ่มจากสัปดาห์ละ 3 วัน คือ จันทร์-พุธ-ศุกร์ และจะเริ่มอีกในวันอาทิตย์ เป็นสัปดาห์ละ 4 วัน
นายวัชรพล สารสอน ผอ. ททท.สำนักงานระยอง กล่าวว่า ระยองพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาทิ เกาะเสม็ดที่อยู่ในทะเล , ชายหาดสวยงามรวมมากกว่า 100 กม. หรือพื้นที่ชุ่มน้ำมีความหลากหลาย ยังมีจุดเด่นของอาหารโดยเฉพาะ “ซีฟูดส์” ทีมีความสด-ใหม่-ราคายุติธรรม ซึ่งไม่สามารถไปหารับประทานที่ไหนได้อีก ขณะที่ผลไม้นานาชนิด มาซื้อหา และรับประทานสดๆในสวน เมื่อมีเส้นทางบินข้ามภาค ก็จะเชิญชวนให้ผู้คนในเส้นทางมาเยือน สำหรับเส้นทางบินข้ามภาคอุดรธานี-อู่ตะเภา จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพิ่มมากขึ้น

น.อ.ศรีอนันต์ โมทะจิตร ผอ.ท่าอากาศยานนานาชาติ “อู่ตะเภา” กล่าวว่า ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เปิดขึ้นพร้อมๆกับท่าอากายานอุดรธานี หลายคนอาจจะเข้าใจว่า “เป็นสนามบินทหาร” แต่ความจริงแยกกันออกชัดเจน ระหว่างรันเวย์กับอาคารท่าอากาศยาน เพื่อบริการเชิงพาณิชย์เหมือนอุดรธานี เป็นท่าอากาศยานมีศักยภาพสูง เดิม เป็นท่าอากาศยานสำรองของ ท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ และเที่ยวบินจากต่างประเทศได้ ถือเป็นท่าอากาศยานหลักของภาคตะวันออก หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านไป ท่าอากาศยายน ก็เติบโตต่อเนื่องมากขึ้นกว่า 30 % ทำให้การให้การเดินทางเข้า-ออก สะดวกมากขึ้นทั้งรถส่วนบุคคล และรถบริการสาธารณะ อาทิ แท็กซี่มิเตอร์ , รถลีมูซีน , รถชัตเตอร์บัส บริการออกจากท่าอากาศยานภายใน 10 นาที
นายจุฬา ทวีปรีดา ผจก.ฝ่ายการตลาด สายการบินไลออนแอร์ กล่าวว่า มั่นใจว่าเส้นทางมุ่งสู่ชายทะเลภาคตะวันออก จะได้รับความนิยมโดยเฉพาะ เป้าหมายเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง จึงเปิดเส้นทางมาที่ภาคตะวันออก ทั้งจาก จ.เชียงใหม่ และจาก จ.อุดรธานี ต่อไปก็จะบินข้ามประเทศ “อู่ตะเภา-จากาตาร์” สำหรับเส้นทางอู่ตะเภา-อุดรธานี มีเป้าหมายผู้โดยสารทั้งชาวไทย และ สปป.ลาว ในกลุ่มผู้โดยสารมีทั้งนักธุรกิจ , นักท่องเที่ยว และแรงงาน และยังเป็นการเดินทางตลอดทั้งปี โดยใช้เครื่องบิน โบอิ้ง 737-800 ผู้โดยสาร 189 คน และอาจจะขยับเป็นโบอิ้ง 737-900 ER ผู้โดยสาร 220 คน อัตราค่าโดยสารขั้นต่ำ 995 บาท และทันทีที่เปิดเที่ยวบินแรกมียอดจองเข้ามาแล้ว 60 %

“ เดือนนี้ไลออนแอร์รับเครื่องบินเพิ่ม 1 ลำ รวมแล้วเป็น 30 ลำ ซึ่งตามแผนจะมีรวม 41 ลำ ทำให้มีการเตรียมเส้นทางบินเพิ่มอีก แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นฤดูฝน หรือเป็นช่วงโลว์ซีชั่น แต่ภาคตะวันออกยังมีศักยภาพ แม้จะเป็นฤดูฝนแต่ก็มีฝนไม่แรง คลื่นลมก็ไม่รุนแรงด้วย ทำให้ยังสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ดี จากศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยว , อาหารทะเลใหม่ๆสดๆ เป็นสุดยอดซีฟูดส์ และที่สำคัญในช่วงนี้คือผลไม้นานาชนิค โดยเฉพาะทุเรียน ที่มีรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยว ของสวนผลไม้หลากหลายมาก ถือเป็นจุดขายสำคัญกระตุ้นให้ นักท่องเที่ยวอีสานและ สปป.ลาว เดินทางมาเที่ยวกินซีฟูดส์และผลไม้ ”
สนามบินอุดรฯ กลับมาบินเชื่อมทุกภาคเหมือนเดิมแล้ว กทม.(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ)-ภาคใต้(หาดใหญ่)-ภาคเหนือ(เชียงใหม่) และภาคตะวันออก(อู่ตะเภา)…..
