เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงแรมนภาลัย เทศบาลนครอุดรธานี นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปาคม หลังเป็นประธานเปิดอบรมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายอนุรักษ์ และดูและรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับมอบเงินจากนางฉายา ตยางคนนท์ ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมอุดรธานี เจ้าของโรงน้ำแข็งอุดรกิตติ จำนวน 1,643,000 บาท เพื่อนำไปบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์ เจดีย์วัดหนองบัว(ร้าง) ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่สมัยนายชยาวุธ จันทร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี (58-60) โดยมีนายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นสักขีพยาน
โครงการบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์ เจดีย์วัดหนองบัวร้าง ตรงข้ามโรงน้ำแข็งอุดรกิตติ ตลาดหนองบัว ทน.อุดรธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกรมการศาสนา 2 ไร่ 55 ตรว. ปี 2537 กรมศิลปากรเข้ามาขุดตรวจ-แต่งโบราณสถาน พบเป็นเจดีย์สูง 4.30 ม. กว้าง-ยาวด้านละ 3.70 ม. สร้างด้วยอิฐฉาบด้วยปูนขาว เทินอยู่บนดินอัดแน่น มีกำแพงด้านละ 4.80 ม. หนา 30 ซม. สูง 50 ซม. และยังพบฐานโบสถ์อีก 1 หลัง ก่อและปูฐานด้วยอิฐ กว้าง 3.80 ม. ยาง 5.30 ม. มีใบเสมาหินทราย แดงข้างละ 3 ใบ กว้าง 20 ซม. สูง 37 ซม. และหนา 10 ซม. มีบันใดทางขึ้น 3 ขั้น อายุราว 300-400 ปี กรมศิลปากรขอกันเป็นเขตเป็นโบราณสถาน 1 ไร่ 2 งาน 67 ตรว.
ภาครัฐและเอกชนอุดรธานีมีความเห็นว่า เจดีย์วัดหนองบัวร้าง หรือหลวงปู่วัดหนองบัวร้าง เป็นโบราณสถานสำคัญกลางเมือง สมควรได้รับการบูรณะและอนุรักษ์ เป็นสมบัติของชาติ และชาวอุดรธานีตลอดไป ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จ.อุดรธานี ร่วมมือกับหลายฝ่ายจนล่าสุด กรมศิลปากรได้ขอปรับลดพื้นที่โบราณสถานลง ให้เหลือเพียงเฉพาะตัวเจดีย์ และโดยรอบออกไปอีก 13 เมตร พร้อมออกแบบประมาณการไว้ 1.6 ล้านบาท แต่ไม่มีงบประมาณดำเนินการ จะต้องขอรับการสนับสนุนจากหน่วยอื่น เมื่อขอใช้พื้นที่จากกรมการศาสนาแล้ว และได้รับเงินบริจาคในครั้งนี้
สำหรับภูมิทัศโดยรอบ มอบหมายให้ ทน.อุดรธานี ร่วมกับโยธาธิการและผังเมือง ออกแบบพื้นที่ โดยกันพื้นที่ของโบราณสถานไว้ ตามแบบของกรมศิลปากร ลักษณะผังพื้นที่ ถนน ที่จอดรถ ท่อระบายน้ำ ประปา ไฟฟ้า และภูมิทัศน์ พร้อมประมาณการงบประมาณเบื้องต้น เมื่อรับอนุญาตแล้วจะมาคุยกันอีกครั้ง เรื่องรายละเอียดและที่มาของงบประมาณ…