ผู้ว่าอุดรฯคนใหม่ พบนายก 181 อปท.ครั้งแรก ย้ำเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา มาเรียนกฎหมายที่ มธ.อยู่วัด อย่าคิดว่าเป็นนายให้คิดเป็นเพื่อน พร้อมมอบ 3 แนวทาง ยึดกฎหมาย-ให้ความเป็นธรรม-ฟังเสียงชาวบ้าน และ 3 ฝาก พืชสวนโลกอุดร-ตั้งมินิธัญรักษ์ทุก รพ.-จัดการอุจจาระแก้มะเร็งตับ
นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวแนะนำตัว มอบแนวทาง และหลักในการทำงาน แก่ผู้บริหาร 181 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.อุดรธานี ครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งว่า เป็นลูกชาวบ้านธรรมดาพ่อแม่ทำนา เกิดและโตที่ จ.สงขลา เรียนประถมและมัธยมระดับอำเภอ ได้เรียนต่อนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯก็อาศัยอยู่วัด เริ่มชีวิตราชการที่กรมที่ดิน ตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้ตรวจราชการกรมที่ดิน ก่อนจะมาเป็นรองผู้ว่าฯที่ จ.ชัยภูมิ , จ.นนทบุรี เป็นผู้ว่าฯ จ.หนองคาย ย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวง และมาเป็นผู้ว่าฯอุดรธานี มารับตำแหน่งได้ราว 1 เดือนเศษ สามารถทำงานอยู่ที่อุดรฯไม่เกิน 2 ปี องค์กรปกครองท้องถิ่นคือหน้าด่าน ที่ต้องพบกับประชาชนก่อน จึงเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหา จะเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ขอให้ใช้ผู้ว่าฯมาช่วยทำงานและช่วยสนับสนุน
ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า ตนมีหลักในการทำงานสำคัญไม่กี่ข้อ ที่ขอให้ท่านนายก อปท.ยึดเป็นแนวทางการทำงาน คือ 1.ยึดหลักระเบียบกฎหมายเป็นที่ตั้ง เมื่อไหร่ที่ทำอะไรผิดเพี้ยน เท่ากับเราเอาหอกมาทิ่มแทงตัวเอง แต่ถ้าหากเราทำถูกต้อง ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้ ขณะเดียวกันหากต้องระมัดระวังเกินไป ก็จะมีผลกระทบกับการทำงาน กติกามรรยาทจึงต้องถูกต้อง , 2.การตัดสินใจหรือข้อสั่งการ ต้องมีความเป็นธรรมผู้มีส่วนได้เสีย และทุกภาคส่วน แม้บางครั้งจะเป็นเรื่องยากแต่ต้องมั่นใจ สุดท้ายคือยึดประโยชน์ส่วนรวม และ 3.การมีส่วนร่วมถือเป็นสำคัญ โดยเฉพาะประชาชน และนายก อปท. งานต่างๆต้องมีตัวชี้วัดชัดเจน ถ้าเป็นประโยชน์กับประชาชน ความตื้นตันใจและความสุขก็อยู่กับท่าน
นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวอีกว่า การมีส่วนร่วมตลอดจนข้อเสนอแนะ จากประชาชนหรือนายก อปท. ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหน ผู้ว่าฯพร้อมที่จะรับฟังตลอดเวลา ในช่วง 1 เดือนเศษที่ผ่านมาที่มารับหน้าที่ ยังไม่มี อปท.ไหนถูกร้องเรียน ขอให้ทุกคนอย่ามองว่าผู้ว่าฯเป็น “นาย” ขอให้คิดว่าผู้ว่าฯเป็นเพื่อนร่วมงาน มีเรื่องฝากทิศทางการทำงานผู้ว่าฯ นอกเหนือจากทิศทางของรัฐบาล หรือ รมว.มหาดไทย ให้นายก อปท.ช่วย คือ เรื่องแรก อุดรธานีเป็นเจ้าภาพพืชสวนโลก 1 พ.ย.69-14 มี.ค.70 ที่ผ่านมาผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ และส่วนงานอื่นๆ ได้ทำงานกันไปจนส่งมอบพื้นที่ และแผนงานให้กรมวิชาการเกษตรไปแล้ว แต่อุดรธานีก็ยังทิ้งไม่ได้ ไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้ว่าฯติดตาม การปรับย้ายเสาไฟฟ้าแรงงสูงกลางหนองแด นายก อปท.ต้องมาร่วมเป็นเจ้าภาพ โดยผู้ว่าฯและส่วนเกี่ยวข้อง จะแจ้งความคืบหน้าต่อเนื่อง
“ เรื่องที่สองยาเสพติดที่ยังรุนแรง ในเรือนจำกลางอุดรธานีมีผู้ต้องขัง 4,500 คน กว่า 85.55 % เป็นโทษยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมาทุกปี ได้มอบหมายให้นายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ที่เคยเป็นรอง ผวจ.หนองบัวลำภู พื้นที่กรณีเหตุการณ์เสียชีวิต 30 กว่าราย ทำให้มีการศึกษาจัดทำแผนป้องกัน-ปราบปราม-รักษาเยียวยา ที่เรีกว่า “หนองบัวลำภูโมเดล” มาจัดทำเป็นแผนของอุดรธานี ด้วยการศึกษาสภาพปัญหา หาวิธีการแก้ไข เพิ่มการมีส่วนร่วมของกำนัน-ผญบ.-ชรบ. เพื่อปิดช่องว่างให้เหลือน้อยที่สุด ขณะที่มินิธัญรักษ์ใน รพ.มีอยู่แล้ว 6 แห่ง ไม่เพียงพอกับการบำบัดรักษาผู้เสพ เป้าหมายเพิ่มให้มีในทุก รพ. จึงขอเชิญชวนนายก อปท.ของอุดรธานี มาร่วมกับผมทำบุญ เพื่อปลอดทุกข์ให้ครอบครัวและทุกคน ”
นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ได้ฝากเรื่องสุดท้าย ในเรื่องคุณภาพชีวิตประชาชน เรื่องการป้องกันแก้ไข “โรคพยาธิใบไม้ตับ” ต้นเหตุสำคัญของโรคมะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพของชาวอีสาน มานานและยังมีปัญหากันอยู่ ทางการแพทย์บอกว่าต้นเหตุคือ การบริโภคสัตว์น้ำไม่ปรุงสุก ไข่พยาธิมาจากอุจจาระคนมีพยาธิ ไม่ถูกกำจัดอย่างถูกวิธี ลงไปอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ และเข้าไปอยู่ในสัตว์น้ำที่เราบริโภค ขณะนี้ที่อุดรธานีมีสถานที่กำจัดอุจจาระเพียง 2 แห่ง ต้องฝาก อปท.จัดหาสถานที่กำจัดให้ถูกต้อง งบประมาณแห่งละ 3-5 แสนบาท และควบคุมให้รถเก็บขนสิ่งปฏิกูล ไม่เอาสิ่งปฏิกูลไปทิ้งให้ธรรมชาติ
