วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Google search engine
หน้าแรกสังคมโรงไฟฟ้าชีวมวลแก้เหม็น6เดือนไม่จบ

โรงไฟฟ้าชีวมวลแก้เหม็น6เดือนไม่จบ

ชาวบ้านหนองเขื่อนฟ้า ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ยังเดือนร้อนจากโรงไฟฟ้าชีวภาพมา 7 ปี ล่าสุดอุตฯสั่งแก้ 4 ประเด็นมา 6 เดือนไม่จบ อ้างกรมโรงงานฯไม่ให้ขนน้ำ-กาก ไปให้เกษตรกรทำปุ๋ย อุตฯสั่งแก้ไขอีกหลายข้อ ยังไม่สั่งหยุดเดินเครื่อง ชาวบ้านต้องทนเหม็นไปอีก

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 นายครรชิต ชิงจันทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี นำคณะนายเชาว์วัฒน์ วีระพันธุ์ หน.กลุ่มงานโรงงานอุตสาหกรรม สนง.อุตสาหกรรมอุดรธานี , นายสายันต์ หมีแก้ว ผอ.ส่วนควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สนง.สิ่งแวดล้อม ภาค 9 อุดรธานี , ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และปลัด ทต.บ้านตาด อ.เมือง อุดรธานี ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหา เสียง-กลิ่น-น้ำเสีย ของ “โรงไฟฟ้าก๊าซชีวะภาพ” ของ บ.เรืองศิริวรรณ จก. บ้านหนองเขื่อนฟ้า ม.14 ต.บ้านตาด อ.เมือง อุดรธานี มีตัวแทนผู้เดือดร้อนร่วมติดตาม

นายชัยรัช ปุณสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บ.เรืองศิริวรรณ จก. ชี้แจงว่า ตามที่จังหวัดอุดรธานีมีคำสั่ง ให้ปรับปรุงโรงงาน 4 ประเด็น ตามคำร้องเรียนจากชาวบ้าน 1.ได้แก้ไขวัตถุดิบหรือวัสดุ ไม่ได้กองอยู่กลางแจ้งแล้ว โดยการใช้วัตถุดิบใหม่ทุกวันๆละ 2 เที่ยวๆละ 30 ตัน เทลงไปในบ่อหมักช่วงเวลา 12.00-14.00 น. อีกทั้งได้ลดกำลังผลิตลงเหลือ 60-70 % ของกำลังผลิต , 2.ได้แก้ไขโรงเรือนบ่อหมักวัตถุดิบ ป้องกันไม่ให้กลิ่นกระจายออกจากโรงเรือน โดยกำหนดให้ขณะเทวัตถุดิบ ลงบ่อหมักจะต้องปิดประตูโรงเรือน ทั้งนี้การลดกำลังผลิตทำให้ “ไม่ต้องแฟร์ก๊าซทิ้ง”

3.“บ่อลากูล” ที่มีพลาสติกคลุมบ่อป้องกันกลิ่น ซึ่งในฤดูฝนที่ผ่านมาชำรุดเสียหาย ได้ซ่อมแซมจนมีสภาพมั่นคงแข็งแรงแล้ว ส่วนถังดักตะกอนขนาด 6,000 ลิตร ที่มีคำสั่งให้ใช้พลาสติกปิดปากถัง ป้องกันกลิ่นกระจายออกมา ได้ทำการติดตั้งไปแล้ว แต่ขณะนี้ได้เปิดพลาสติกออก พร้อมระบายของเหลวออก เพื่อทำการซ่อมบำรุงและทาสี หากเสร็จจะติดตั้งพลาสติกไว้เหมือนเดิม และ 4.ส่วนบ่อน้ำหลังโรงงาน 3 บ่อ ที่เชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดกลิ่น ได้ขออนุญาตกรมโรงงาน นำน้ำออกไปให้เกษตรกร จากนั้นจะถมบ่อทั้งหมด แต่ไม่ได้รับอนุญาตแม้จะขอไป 3 ครั้ง เมื่อทำยังไม่ได้ได้ตกแต่งและบดอัดคัดดินให้แข็งแรง

ขณะที่ตัวแทนชาวบ้าน ระบุว่า ชาวบ้านเดือดมานานกว่า 7 ปี แม้โรงงานจะทำการแก้ไขตามคำสั่ง ทั้งที่โรงงานลงทุนไปหลายร้อยล้านบาท แต่กลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เหมือนกับไม่มีความพร้อม และความจริงใจ-จริงจังในการอยู่ร่วมกับชุมชน แม้ว่าเสียงเครื่องจักรจะเบาลง แต่กลิ่นยังมีปัญหาต่อเนื่อง ทั้งระดับเล็กน้อย-รุนแรง ช่วงเวลาเย็น-สว่าง ในวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ รุนแรงที่สุดคือสงกรานต์ที่ผ่านมา และในช่วงต้น มิ.ย.ที่ผ่านมาก็มีกลิ่นทุกวัน และเมื่อร้องเรียนไปกลิ่นก็หายไปจนถึงวันนี้ อีกทั้งยังพบแรงงานสูบน้ำเสียออกไปที่ดินติดกับโรงงาน เกรงว่าน้ำเสียจะกระจายไปที่ดินข้างเคียง

นายเชาว์วัฒน์ วีระพันธุ์ หน.กลุ่มงานโรงงานอุตสาหกรรม สนง.อุตสาหกรรมอุดรธานี ได้มีคำสั่งหลังมาการหารือกันเกือบ 3 ชม. ว่า 1.ห้ามระบายน้ำ หรือนำน้ำ หรือวัสดุเหลือจากการผลิต ออกจากโรงงานจนกว่าจะได้รับอนุญาต , 2.ให้นำเอกสารการรับรองของวิศวกร ในการซ่อมแซมบ่อลากูล และปรับปรุงโรงเรือน ให้ทาง สนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี เพื่อชี้แจงประชาชน , 3.ให้ยื่นขออนุญาตนำน้ำจาก 3 บ่อ โดยระบุว่าเป็นน้ำเหลือจากการหมักหญ้าเนเปีย ออกไปให้เกษตรกรระบุรายบุคคล ในอัตรา 80 ลบม./ ไร่ / ปี พร้อมแนบค่า BOD. และ COD. หากได้รับอนุญาตให้ดำเนินการทันที (คาดใช้เวลาขนย้าย 3 เดือน)

4.ให้ยื่นขออนุญาตทำโรงงานปุ๋ย แต่ไม่ใช่พื้นที่โรงงานปัจจุบัน เพราะชาวบ้านเคยคัดค้าน เกรงจะเกิดปัญหาซ้ำซ้อน ซึ่งพื้นที่อื่นก็ต้องทำตามระเบียบ ไม่ให้กระทบกับชาวบ้าน เพื่อนำน้ำส่งต่อให้เกษตรกรใช้เป็นสารบำรุงดิน และใช้กากไปผลิตเป็นสารปรุงดิน คาดว่ามีได้สารบำรุงดิน 200 ตัน / ปี , 5.ให้จัดทำแผนการดำเนินการ ตั้งแต่เริ่มการขออนุญาต จนสามารถดำเนินการได้ โดยจัดทำทามไลน์ให้ชัดเจน เพื่อรายงานให้จังหวัด ที่จะมีการประชุมในกลางเดือนหน้า และ 6.ให้ รง.จัดทำ ซีเอสอาร์ สร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน เพื่อทำความเข้าใจต่อกันมากขึ้น หากยังแก้ไขไม่ได้จะแก้ไขที่โรงเรือนบ่อหมัก ….

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments