ไฟพิโรธไหม้ร้านขายเนื้อ ลามติดเพื่อนบ้านวอด 3 หลัง เจ้าของบ้านร่ำไห้ขนของหนีไม่ทันแทบสิ้นเนื้อประดาตัว
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ร.ต.อ.วุฒิชัย สุดชาขำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กุดจับ ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดที่ บ.หนองโน ม.2 ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุได้เร่งไปตรวจสอบ พร้อมด้วยรถดับเพลิงจาก เทศบาล ต.กุดจับ ,เทศบาล ต.เมืองเพีย ,เทศบาล ต.ขอนยูง ,เทศบาล ต.ยางชุม และอาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน จุดบริการ อ.กุดจับ เร่งเข้าทำการดับเพลิงเป็นการด่วน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 166 ม.2 ต.กุดจับ หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายเนื้อวัวสด อาหารอีสาน อาหารตามสั่ง ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน ก่อนลุกลามไปอย่างรวดเร็วจนวอดทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุมีสภาพอากาศร้อนจัด และมีลมแรง ก่อนลุกลามไหม้ไปยังบ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกันอีก 2 หลัง ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด
บ้านทั้ง 3 หลัง ไม่สามารถนำข้าวของเครื่องใช้ออกมาได้ทัน ชาวบ้านบางส่วนได้ช่วยกันเข็นรถยนต์กระบะออกจากพื้นที่กันอย่างชุลมุน ส่วนที่หน้าร้านขายเนื้อ เนื้อสด เนื้อแห้งที่แขวนโชว์ไว้ รวมทั้งในตู้แช่ ถูกไฟเผาจะเกรียมเกือบทั้งหมด ใช้เวลาดับเพลิงประมาณ 1 ชม. เพลิงจึงสงบลง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
นางสุรีรัตน์ พึ่งเรือง อายุ 42 ปี ลูกจ้างร้านต้นเพลิง เล่าว่า ทำงานที่นี่ได้ประมาณ 5 เดือน ก่อนเกิดเหตุขายของตามปกติ อยู่กับภรรยาเจ้าของร้าน และลูกเจ้าของร้าน 2 คน รวม 4 คน ไม่มีอะไรบอกเหตุล่วงหน้า รู้อีกทีก็มีกลุ่มควันอยู่ชั้น 2 บนตัวบ้าน ซึ่งเป็นห้องเก็บของ เก็บโต๊ะ เก้าอี้ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อวิ่งขึ้นไปดูก็เห็นกลุ่มควันอยู่ในห้อง จึงวิ่งไปเอาหม้อมาตักน้ำเพื่อดับไฟ แต่ก็ดับได้ทัน จึงวิ่งหนีตายออกมานอกบ้าน ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
นางวันเพ็ญ ศรชัย อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 21 เล่าทั้งน้ำตาว่า บ้านตนอยู่หลังบ้านต้นเพลิง ตนออกไปขายของที่ตลาด ปล่อยให้แม่และลูกชายอยู่บ้าน 2 คน ชาวบ้านคนอื่นเขาบอกว่ามีไฟไหม้ที่ทางโค้ง บ.หนองโน มั่นใจเลยว่าเป็นบ้านตัว จึงรับขี่รถจักรยานยนต์มาทันที มาถึงก็เห็นลูกชายพาแม่ออกมาจากบ้านแล้ว แต่ไม่ได้เอาอะไรออกมาได้ เพราะลมแรง ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนหมดทั้งหลัง เสียใจมากที่ต้องสูญเสียบ้านไป ของมีค่าต่างๆ ก็ถูกไฟเผาไหม้ทั้งหมด
นางวันนี โพโสภา อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 304 เล่าว่า ตอนเกิดเหตุจ้างคนงานมายกยุ้งข้าว ตนก็เก็บสะอาดอยู่หลังบ้าน สังเกตเห็นควันไฟอยู่ข้างบ้าน ไม่ได้ยินเสียงระเบิดอะไรเลย ตอนแรกไฟยังไม่แรง แต่ก็ช่วยกันดับไม่ทัน เพราะไม่มีสายยางฉีดน้ำ บ้านต้นเพลิงเป็นบ้านเก่า มีสายไฟระโยงระยางมั่วกันไปหมด ตกใจมากเห็นแต่ข่าวบ้านคนอื่น บ้านไหม้หมดทั้ง 2 ชั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าถูกไฟไหม้ทั้งหมด รวมทั้งเอกสารราชการ ก่อนเกิดเหตุก็ไม่มีลางบอกเหตุร้ายอะไร
เบื้องต้นตำรวจได้เก็บภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าสาเหตุจะเกิดจากไฟฟ้าลักวงจร เนื่องจากเป็นบ้านไม้เก่า สายไฟฟ้าไม่ได้เปลี่ยนมานานหลายปี ซึ่งตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุของเพลิงไหม้ให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง และยังไม่สามารถประเมินความเสียหายทั้งหมดได้
