เมื่อเวลา 20.40 น.วันที่ 30 มีนาคม 2567 ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.อุดรธานี แจ้งเหตุทะเลาะวิวาทหน้าร้านขายหมูกระทะ ริมถนนมิตรภาพฝั่งขาเข้าเมืองอุดรธานี บ.โนนสูง ม.11 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี หน่วยกู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี , กู้ชีพ ทต.โนนสูง , กู้ภัยทางหลวงอุดรธานี ไปให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย คือ ร.ต.ต.ทนงศักดิ์ เครือเนตร หรือหมวดแหลม อายุ 55 ปี รอง สวป.สภ.โนนสูง ถูกมีดแทงหน้าท้องฝั่งขวาไส้ทะลัก และนายสนธิชัย จำปา อายุ 72 ปี อยู่เลขที่ 341/2 ม.11 บ.ป่าหวาย ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าร่างกายหลายนัด ส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี
พ.ต.อ.ฉกาจณ์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สภ.โนนสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจชุดสืบสวน สภ.โนนสูง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบอาวุธมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุต และอาวุธปืนประจำกาย ขนาด 9 มม. มีกระสุนเหลือในแม็กกาซีน 5 นัด และในรังเพลิง 1 นัด และพบรอยกระสุนปืนที่พื้นถนน และปลอดกระสุน 8 ปลอก ซึ่งยังพบรถยนต์อีซูซุ 4 ประตู สีบรอนทอง ทะเบียน กย-8016 อุดรธานี ของ ร.ต.ต.ทนงศักดิ์ฯ จอดอยู่จุดเกิดเหตุ
แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว อายุ 52 ปี เล่าว่า บ้านพักบริเวณนี้จะเป็นพี่น้องกัน บางครั้งเจ้าของบ้านก็เอารถมาจอด เห็นตำรวจขับมาจอดซื้อของ เพราะมีร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่ ขณะเกิดเหตุเห็นตอนพูดเสียงดัง แล้วผลักกันไปมา ไม่รู้ว่าใครลงมือก่อน ส่วนเสียงปืนนึกว่าเขาจุดประทัด คิดว่าเขาหยอกล้อกันเท่านั้น หลังจากได้ยินเสียงปืน ก็วิ่งหลบไปด้านในร้านสะดวกซื้อ ตกใจมาก ขายของมาตั้งนานไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย
พ.ต.อ.ฉกาจณ์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ที่เกิดเหตุเป็นบ้านนายสนธิชัยฯ เปิดเป็นร้านหมูกะทะแบบตักเอง แต่วันนี้ร้านปิด ส่วน ร.ต.ต.ทนงศักดิ์ฯ ขับรถมาจอดหน้าบ้าน แล้วนายสนธิชัยฯ ที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ภายในบ้าน เดินออกมาบอกว่าไม่ให้จอดหน้าบ้าน จนมีปากเสียงทะเลาะกัน พร้อมกับใช้อาวุธมีดแทงตำรวจที่ท้อง และทางตำรวจได้ใช้ปืนยิงสวนไป ทำให้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีกครั้ง และจะสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามข่าว พบว่ารถปิกอัพ “หมวดแหลม” มีรองรอยของมีคมเสียบแก้มยางจนรั่ว และพบร่องรอยกระสุนปืนยิงเข้าที่คานรองเครื่องยนต์รถ ส่วนที่ รพ.พบว่า กระสุนเข้าลำตัว “ตาชัย” 3 นัด แขน 2 นัด และขา 2 นัด รวม 7 นัด เสียเลือดมาก อาการไม่ตอบสนอง นอนไม่รู้สึกตัวอยู่ในห้อง ไอซียู. รพ.ศูนย์อุดรธานี ขณะ “หมวดแหลม” คู่กรณีทราบว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว หลังทีมแพทย์พยาบาลเร่งผ่าตัดช่วยชีวิต แต่เสียเลือดมาก และยังใส่เครื่องช่วยหายใจ อยู่ในห้อง ไอซียู.เช่นกัน
นางกลาบสร จำปา อายุ 71 ปี ภรรยาของตาชัย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุสามีนั่งกินเหล้าขาวอยู่โต๊ะหน้าบ้าน ที่อยู่ห่างจากประตูรั้วหน้าบ้าน 30 เมตร ซึ่งก็นั่งกินเหล้าฟังเพลงอยู่ตรงนี้ประจำ ปกติสามีเป็นคนใจดีและไม่ใจร้อน ไม่เคยมีเรื่องกับใคร หรือญาติพี่น้องมาก่อนเลย อยู่ด้วยกันมา 40 กว่าปี ก็ไม่เคยดุด่าทำร้าย ส่วนตำรวจคู่กรณีก็ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน ตอนเกิดเหตุก็ไม่เห็น ได้ยินแต่เสียงปืนหลายนัด น่าจะเป็นเหตุซึ่งหน้า เชื่อว่าเขาเป็นคู่เวรกรรมกันมาแต่ชาติปางก่อน จึงมาสะสางกันในชาตินี้
” สามีไม่เคยมีปัญหากับคนมาจอดรถหน้าบ้าน ได้ก็ยินแต่สามีบ่นคนจอดรถขวางทางเข้าบ้าน แม้แต่จักรยานยนต์ยนต์ก็เข้าบ้านไม่ได้ แต่ก็มาเกิดเรื่องขึ้นจนได้ ทั้งคู่น่าจะมีอาการเมาเหล้า ส่วนมีดปลายแหลมสามีพกติดตัวไปไร่ไปสวนประจำ เพื่อใช้ชำแหละปลา ถอดเกล็ดปลาทำอาหาร ”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามชาวบ้านในระแหวกใกล้เคียง ไม่ประสงค์ออกนาม และไม่ให้บันทึกภาพ บอกว่า เคยเห็นตาชัย มีปากเสียงกับคนที่มาจอดรถขวางประตู ซึ่งเป็นทางเข้าออกบริเวณหน้าบ้านอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีเหตุรุนแรงเหมือนกับครั้งนี้….