เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 21 กรกฎาคม ที่กองกำกับการสืบสวนภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมชี้แจงลูกหนี้นายทุนดอกเบี้ยโหด 30 คน เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ในฐานะผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังหลายหน่วย บุกตรวจยึดเอกสารนายทุน 14 จุด ของนายทุน 7 ราย ในพื้นที่ จ.อุดรธานี เบื้องต้นพบเข้าข่าย 5 ราย
พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 ชี้แจงว่า หลังจากชาวบ้านได้รับโฉนดที่ดินคืน จากนายทุนเงินกู้ในเขต จ.ขอนแก่น ทำให้ชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ เข้ามาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเพิ่มเติม โดยชาวบ้านที่เข้าแจ้งความจะต้องให้ปากคำ อย่างละเอียดว่ากู้มาเท่าไหร่ ดอกเบี้ยร้อยละเท่าไหร่ ใช้หนี้ไปแล้วเท่าไหร่ เกินจากเงินต้นมากแค่ไหน จากนั้นทางตำรวจจะเรียกนายทุนมาเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อให้ชาวบ้านได้รับความเป็นธรรม และได้รับโฉนดที่ดินกับคืนจากนายทุน
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวต่อว่า จากนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการกับนายทุนเงินกู้โหด เอารัดเอาเปรียบประชาชนที่ยากจนอยู่แล้ว และถูกยึดที่ดิน ซึ่งเป็นความเดือดร้อนมานานมากแล้ว จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ โดยสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 เป็นภาคแรกที่ดำเนินการกับกลุ่มนายทุนเหล่านี้ จากการดำเนินการก็สามารถดำเนินการไปได้หลายกลุ่มแล้ว โดยกลุ่มนายทุนก็ยินยอมที่จะคืนโฉนด ในส่วนที่เอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน 200 รายใน จ.ขอนแก่น
“ อุดรธานีก็มีเป้าหมายไม่น้อยกว่าขอนแก่น หลังจากที่เข้าค้นนายทุนเงินกู้ทั้งหมด 14 จุด ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำงาน ยังมีขั้นตอนอีก 2-3 ขั้นตอน ที่จะเอาโฉนดมาคืนให้กับประชาชนที่ ทำให้ต้องมานั่งอธิบายว่า ขั้นตอนในการทำงานเป็นอย่างไร ทั้งนี้ชาวบ้านที่มาหลายคน เห็นว่าเคยร้องเรียนมาแล้วหลายที่ แต่ไม่มีความคืบหน้า ทำให้วันนี้ชาวบ้านรวมตัวกันมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ จากการกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เพื่อให้ปากคำเพิ่ม บางคนอาจจะยินยอมที่จะเจรจาคืนโฉนด หรือปรับดอกเบี้ยใหม่ ”
พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 แจ้งว่า แจ้งไปถึงชาวบ้านที่เดือดร้อน กู้ยืมเงินสัญญาไม่เป็นธรรม ให้มาร้องทุกข์ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ ที่ตึกกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี เพื่อให้ปากคำจะได้ทราบว่ากู้เงินจากนายทุนคนไหน อย่างไร และจะได้ดำเนินการกับนายทุน เพื่อจะนำเอาโฉนดมาคืนให้ ซึ่งปัจจุบันนี้มีชาวบ้านเดินทางมาร้องทุกข์แล้ว 80 คน คาดว่าจะใช้เวลาในการแก้ปัญหาประมาณ 1 เดือน
