ชาวบ้านโวยโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส ส่งกลิ่นเหม็นมานานกว่า 4 ปี เคยร้องเรียนแก้ไขมาแล้ว 1 ครั้ง ปัญหาฝนที่ผ่านมาหนักสุด ขอให้หยุดก่อนเพื่อแก้ไข ขณะเจ้าของเอ่ยปากขอโทษ ทำตามแบบที่รับอนุญาต ร้องเรียนครั้งแรกแก้ไขตามคำสั่ง แต่มาเกิดอุบัติเหตุจากฝนหนัก บ่อดักแก๊ส (ลากูล) บ่อสุดท้ายทรุดตัวแก๊ส หลุด พร้อมแก้ไขอยู่ร่วมชุมชน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน บ.หนองเขื่อนฟ้า ม.14 ต.บ้านตาด อ.เมือง นำโดยนายสมปอง สนิทกูล อายุ 50 ปี กับพวก ว่าได้รับความเดือดร้อนจาก รง.ผลิตกระแสไฟฟ้าจาก “ไบโอแก๊ส” บ.เรืองสิริวรรณ จก. ริมถนน บ.ตาด-บ.หนองประเสริฐ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเรือนเพียง 100 เมตร ซึ่งบริเวณพูดคุยห่างจาก รง. 500 เมตร รับรู้กลิ่นได้เป็นระยะ
นายสมปอง สนิทกูล กับชาวบ้าน เปิดเผยว่า พื้นที่นี้ทำ“โซล่าฟาร์ม”มาก่อน และยังทำอยู่ไม่เคยมีปัญหา จนมาทำโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส มาบอกชาวบ้านว่า จะใช้วัตถุดิบคือ หญ้าเนเปีย ต้นข้าวโพด ฟางข้าว โดยจะรับซื้อวัตถุดิบจากชาวบ้าน , จ้างแรงงานในพื้นที่ และไม่ใช้สารเคมี ชาวบ้านก็ไม่คัดค้าน แต่เมื่อสร้างเสร็จกลับมีปัญหา เสียง , น้ำเสีย และกลิ่นเหม็น
“ ปี 63 ชาวบ้านร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม และ ทต.บ้านตาด หลายหน่วยงานมาดู ยอมรับมีเหตุเดือดร้อนรำคาญจริง ทำให้ 30 ธ.ค.63 ทต.บ้านตาด ออกคำสั่งให้แก้ไขปรับปรุง กองวัสดุ , โรงหมักวัตถุดิบ , กากวัตถุดิบจากการผลิต , ระบบบำบัดน้ำเสีย และเสียงจากเครื่องจักร ภายใน 30 วัน แต่ รง.ขอขยายเวลาไปถึง 25 ธ.ค.64 หรือขอเวลาเกือบ 1 ปี ”
นายสมปอง สนิทกูล กล่าวต่อว่า รง.ไม่ได้ใช้วัตถุดิบตามที่บอก แต่ใช้“กากมันเน่า ”ขนมากอไว้กลางแจ้ง พอเอาไปหมักก็ไม่ปิดมิดชิด ระบบบำบัดน้ำเสียก็ไม่ชัดเจน ปรับปรุงแก้ไขทำตามสั่งหรือยัง ทำแบบไหนก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ยังเหม็นอยู่ และเหม็นมากช่วงฝนที่ผ่านมา อยากให้หยุดเดินเครื่องก่อน เพื่อแก้ไขปรับปรุงจนหมดปัญหา โดยชาวบ้านขอไปติดตามด้วย
นายสมปอง สนิทกูล ตอบข้อซักถามด้วยว่า เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ทต.บ้านตาด จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น เพื่อจะสร้างโรงงานปุ๋ยในพื้นที่เดียวกัน โดยไม่ได้แจ้งคนที่เคยร้องเรียน ชาวบ้านไปร่วมเวทีเข้าระแวง ไม่เห็นด้วยกับโรงงานปุ๋ย วันต่อมาก็มีคนของโรงงาน ตระเวนเอาเอกสารมาให้ชาวบ้านลงชื่อ ว่าเห็นด้วยกันสร้างโรงงานปุ๋ย จึงต้องออกมาบอกความเดือดร้อนผ่านสื่อมวลชน
นางนาง ศรอินทร์ อายุ 64 ปี ราษฎร บ.หนองเขื่อนฟ้า เปิดเผยว่า เมื่อได้กลิ่นจะเห็นแล้วปวดหัว ไม่ถึงกับต้องอาเจียน แต่จะเมาหัว นอนไม่ค่อยได้ ส่วนมากก็จะเป็นตอนกินข้าวเย็น 1-2 ทุ่ม ถ้าเหม็นแรงก็เข้าไปอยู่ในมุ้ง กลิ่นจะเหม็นเหมือนของปูดออกเปรี้ยวๆ ได้กลิ่นมาก็เหม็นตึบ ๆ แล้วก็ปวดหัวเลย
นายสมปอง สนิทกูล กับชาวบ้าน ได้นำลงพื้นที่ริมเขตโรงงาน ด้านบ่อเก็บกักน้ำเสีย ระบุว่า เดิมทีแนวเขตเป็นคันดินต่ำ ทำให้น้ำเสียจากโรงงานไหลออกมา เข้าไปในนาข้าวเสียหาย มีต้นไม้ใหญ่ยืนตายด้วย ปีนี้ก่อนฝนตกเขาก็ทำคัดดินใหม่ ขยายกว้างและสูงกว่าเดิม ก็ตักดินในบ่อน้ำเสียมาทำ และปีนี้น้ำเสียก็ไม่ไหลเข้านาข้าว
พบกับนายพัน กันหาราช อายุ 76 ปี ผู้สูงอายุอยู่ติดบ้าน เปิดเผยว่า เหม็นแบบใจจะขาด วินเวียนไปหมด เป็นมาตั้งแต่เขามาตั้งโรงงาน ทำอย่างไรได้หละ “ตีนช้างเหยียบปากนก” เราจะพูดไปเขาก็ไม่เชื่อเรา พอรู้ว่าจะมีการมาตรวจ เขาก็พาลูกน้องทำความสะอาด นายมาตรวจสอบอากาศมันก็ดี เข้าก็ไปเราก็อยู่อย่างนี้ไป ปกติป่วยเป็นเบาหวาน-ความดัน เมื่อมาเจอกลิ่นเหม็นก็หนักขึ้นไปอีก ไม่เห็นด้วยกับทำโรงงานปุ๋ยอีก ถ้ามีมันก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไป
พบกับนางสุณี ขมิ้นเขียว อายุ 57 ปี แม่บ้านที่แพ้รุนแรง เปิดเผยว่า เดิมทำงานอยู่ต่างจังหวัด แม่ป่วยก็กลับบ้านมาได้ 6 ปีแล้ว มาก่อนที่โรงงานนี้จะสร้าง เกิดขึ้นได้ยังไงทำไมเราไม่รู้ แล้วคนลงทุน คนอนุญาต ทำไมมาสร้างติดกับชุมชุน โดยกลิ่มมันเหม็นมากเหมือน “ส้วมแตก” พอได้กลิ่นจะปวดหัวและมึนไปเลย แล้วมีอาการอยากจะอาเจียน เคยอาเจียนออกมาหลายครั้ง มันจะรู้สึกว่าจะเหม็นตลอดเวลา กินข้าวก็ไม่อร่อย ไปหาหมอก็ได้แต่พาราฯกับยาแก้ไอ
“ ส่งไลน์ไปที่กลุ่มโรงงานหลายครั้ง เขาก็แจ้งว่าแก้ไขแล้วแบบนี้ ตกเย็นกลิ่นก็มาอีก 2 เดือนที่ผ่านมาเหม็นมาก และวานก่อนเปิดประตูออกมาตี 4 จะเป็นลมต้องเอามือคว้าประตูไว้ ไม่ได้โกหกให้ร้ายโรงงาน แต่อยากให้โรงงานเข้าใจชาวบ้านด้วย เดือนนี้ไปหาหมอ 2 รอบแล้ว เป็นไข้ก็ไม่หายง่าย ตอนนี้ก็ยังไม่หายดี โรงงานเปิดมาหลายปี การแก้ไขน่าจะฟิกปัญหาได้แล้ว หรือน่าฟิกปัญหาตั้งแต่ก่อนตั้ง แต่ต้องมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แก้แล้วก็ปล่อยให้กลับมาอีก เวลาคนพูดก็บอกแก้ไขปัญหาแล้ว ”
นายชัยวัช บุญสุวรรณ ประธานกรรมการฯ (089-8795456) และนางนนลณีย์ เรืองสิริวรรณ กรรมการ ผจก.บ.เรืองสิริวรรณ จก. เลขที่ 133 ม. 14 บ.หนองเขื่อนฟ้า ต.บ้านตาด นำผู้สื่อข่าวดูพื้นที่โรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้ กฟภ.มา 4 ปี ตามแบบที่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อเกิดปัญหาร้องเรียน ก็ได้ทำการแก้ไขตามคำสั่ง และนำลงชี้จุดที่ทำการแก้ไขไปแล้ว และจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา
นายชัยวัช บุญสุวรรณ ประธานกรรมการฯ เปิดเผยว่า เราได้ปรับปรุงตามที่คำสั่ง และอุตสาหกรรมแนะนำ คือ สร้างอาคารคลอบวัตถุดิบ ก่อนป้อนเข้าระบบไบโอแก๊ส มีระบบประตูอัตโนมัติ มีห้องเก็บ 2 ชั้น , เรื่องเสียงดังที่เกิดขึ้นที่อาคารเครื่องจักร เราได้บุผนังป้องกันเสียงอีก 1 ชั้นเป็น 2 ชั้น , มีการสร้างคำแพงกันเสียงสูง 10 เมตรยาว 30 เมตร และยังสร้างบ่อลากูลเพิ่ม ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ก่อนขอขยายเวลา
“ จนมาช่วงฤดูฝนที่ผ่านมามีฝนหนัก บ่อลากูลที่คลุมด้วยผ้าใบยาง มีการซึมซับน้ำมากเกิดการยกตัวของผ้าใบด้านหนึ่ง ทำให้แก๊สรั่วไหลออกมา ในช่วงเกิดปัญหาเราก็พยายามแก้ไข นำดินเข้ามาถมทุกวันแต่ก็ยังไม่ดี ที่ปรึกษาแนะนำให้รื้อขึ้นมา แล้วฝังลงไปใหม่ ซึ่งจะต้องทำเมื่อฝนหยุดแล้ว ซึ่งตอนนี้ผู้รับจ้างก็เข้ามาซ่อมแซมแก้ไขสมบูรณ์แล้ว ”
นายชัยวัช บุญสุวรรณ ตอบคำถามด้วยว่า ที่ยังมีกลิ่นออกมาในช่วงนี้ เกิดจากเราวนน้ำที่ผ่านระบบ มาใช้ภายในโรงงาน ซึ่งได้เปลี่ยนเอาน้ำใหม่มาใช้แล้ว ส่วนที่ไปยื่นขออนุญาตโรงงานปุ๋ย เกิดจากเราเดินเครื่องมา 4 ปี มีอินทรีย์วัตถุตกตะกอนสะสมอยู่มาก นักวิจัยสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ แนะนำไม่ต้องนำมาบำบัด แต่น่าจะปรับปรุงให้มีคุณภาพมากขึ้น เพราะมีสารอาหารหลัก-รอง-เสริมกว่า 16 ชนิด เมื่องานวิจัยเสร็จเราก็เห็นว่า น่าจะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง เพื่อนำออกไปให้ชุมชนได้ใช้
นายชัยวัช บุญสุวรรณ ประธานกรรมการฯ กล่าวด้วยว่า ได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาแก้ไขมาโดยตลอด จากการปรึกษาหาวิธีการเรามองว่า ถ้ายังไม่นำตะกอนเหล่านี้ออกไปก็ยังจะเกิดปัญหาอยู่ เราก็อยากจะชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจ และปีนี้ขอกราบอภัยชาวบ้านเป็นอย่างสูง จากอบัติเหตุที่เกิดขึ้นในโรงงาน ที่เราเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เราขอยอมรับผิดมา ณ ที่นี้ เราอยากให้โรงไฟฟ้าอยู่กับชุมชนอย่างมีความสุข…