เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 31 สิงหาคมที่ 2566 หน่วยกู้ชีพ รพ.กุดจับ และมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน จุดบริการ อ.กุดจับ ได้รับแจ้งชายถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 40 บ.หนองฆ้อง ต.ขอนยูง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี พบนายคำ จันทะวงค์ อายุ 79 ปี บาดแผลฉีกขาด ที่มือด้านซ้ายมือขาด จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บไป รพ.กุดจับ ก่อนนำตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี
ส่วนคนที่ก่อเหตุคือ นายอุทิศ เรืองสี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.4 บ.ผาสุก ต.ตาลเลียน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี สามีนางหมองและเป็นลูกเขยของผู้บาดเจ็บ หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปในความมืด ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุดจับ นำโดย พ.ต.ต.พนม แสนทอง สว.สส.สภ.กุดจับ ร.ต.อ.พงศ์เทพ บุดดา รอง สว.สส.สภ.กุดจับ นำกำลังตำรวจไปจับกุมตัวได้ที่บ้าน พร้อมของกลางอาวุธมีดขอ หรือมีดตัดอ้อย ความยาวประมาณ 60 เซ็นติเมตร เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 กันยายน 2566 ขณะนายอุทิศฯ กำลังติดต่อผู้นำชุมชน เพื่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่โรงพัก
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบกับนางหมอง เรืองสี อายุ 46 ปี และนางบุญหนา จันทะวงค์ อายุ 75 ปี ภรรยาและลูกสาวผู้บาดเจ็บ และญาติพี่น้อง ทราบว่าขณะนี้อาการผู้บาดเจ็บได้พ้นขีดอันตรายแล้ว ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี แต่ไม่สามารถต่อมือกลับคืนได้ เนื่องจากผู้บาดเจ็บเสียเลือดมากและมีอายุเยอะแล้ว
จากการตรวจสอบบริเวณถนนหน้าบ้าน พบหยดเลือดกระจัดกระจายเป็นทางยาวไปตามพื้นถนน เริ่มจากหน้าบ้านไปตามถนนที่ห่างจากบ้านประมาณ 20 เมตร โดยมีนางหมอง เรืองสี ลูกสาวผู้บาดเจ็บ นำชี้จุดบริเวณที่ต่อสู้กัน เริ่มจากหน้าบ้านไปตามถนน ก่อนผู้บาดเจ็บ เห็นลูกสาวถูกทำร้ายได้เข้าไปห้าม โดยถืออาวุธมีดขอไปด้วย และเกิดการต่อสู้ยื้อแย่งมีดขอกัน ลูกเขยแย่งไปได้ ก่อนฟันถูกมือซ้ายขาด เลือดพุ่งกระฉูด เพราะผู้บาดเจ็บยกมือขึ้นมาบังบริเวณลำคอตัวเองไว้ ผู้ใหญ่บ้านได้นำตัวส่ง รพ.กุดจับ แต่ระหว่างทางได้จอดรถปฐมพยาบาลห้ามเลือดที่ไหลไม่หยุด พร้อมกับเปลี่ยนถ่ายให้ผู้บาดเจ็บขึ้นรถกู้ชีพ รพ.กุดจับ นำตัวส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี ช่วยชีวิตจนพ้นขีดอันตราย
นางหมอง เรืองสี ลูกสาวผู้บาดเจ็บและภรรยามือมีด เล่าว่า ตนอยู่กินกับนายอุทิศมาเกือบ 20 ปี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และมีลูกชายอายุ 15 ปี ด้วยกัน 1 คน ระยะหลังสามีติดเสพยาบ้า กัญชา และเหล้าขาว ผสมกันมาประมาณ 10 ปี จนมีอาการหลอนและทุบทำลายข้าวของภายในบ้าน และทำร้ายร่างกายตน กระทั่งครั้งล่าสุดช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2566 สามีพลักตนล้มแล้วขึ้นบีบคอตน ลูกชายได้เข้ามาช่วยไว้ทัน จนทำให้ตนสุดทนในพฤติกรรมของสามี จึงขอแยกทางและกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ แต่สามีก็ตามมาง้อ 3-4 ครั้ง ด้วยอาการเมาและตาขวาง แต่ไม่ได้พกอาวุธมา กระทั่งมาครั้งนี้สามีได้พกอาวุธมีด และระเบิดขวด มาด้วยอาการเมายาและตาขวาง โยนระเบิดขวดที่หน้าบ้าน แต่ระเบิดไม่ทำงาน ก่อนชักมีดแหลมที่พกมาไล่ทำร้ายตนไปตามถนนหน้าบ้าน
”พ่อกลัวตนจะได้รับอันตราย ถูกสามีใช้มีดแทง เพราะตนถูกผลักจนล้มหัวกระแทกพื้นถนน พ่อเห็นท่าไม่ดีจึงคว้ามีดขอหรือมีดตัดอ้อยที่วางอยู่หน้าบ้าน วิ่งตามมาห้ามบอกให้สามีตนหยุดทำร้ายตน แต่สามีกลับหันมาแย่งเอามีดขอกับพ่อ และหมายฟันไปที่คอพ่อ แต่พ่อได้ยกมือขึ้นบังไว้ คมมีดจึงได้ตัดมือของพ่อขาดกระเด็น หลังก่อเหตุสามีได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปในความมืด พร้อมกับเอามีดขอของพ่อติดมือไปด้วย ตนทำอะไรไม่ถูกเพราะสงสารพ่อ ได้หยิบเอามือพ่อไปแช่ตู้เย็นไว้ แล้วโทรแจ้งตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยพาพ่อไปส่งโรงพยาบาล และจะดำเนินคดีกับสามีให้ถึงที่สุด”
จากการสอบสวนนายอุทิศ เรืองสี ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ยอมรับว่าใช้มีดขอฟันมือของพ่อตาขาด ตนทำไปเพราะป้องกันตัว เนื่องจากพ่อตาใช้มีดขอฟันมาที่ตนก่อน แต่ตนหลบทัน จึงประชิดตัวเข้าแย่งมีดขอจากมือพ่อตาได้สำเร็จ ด้วยความโมโห และบันดาลโทสะ จึงฟันพ่อตาจนมือขาด รู้สึกเสียใจที่ทำกับพ่อตาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนพิการ และอยากขอโทษพ่อตา และญาติทุกคน ในสิ่งที่ตนได้ทำลงไป เมื่อพ้นโทษออกมาก็จะกลับมาเป็นคนดีของสังคม และจะเลิกยาเสพติดผิดกฎหมายทุกประเภท ส่วนเหล้าก็ขอกินแก้เหนื่อยนิดหน่อย
”ที่ผ่านมาตนไม่เคยมีมีเรื่องมีปากเสียงกับพ่อตาเลย ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายภรรยานั้น ตนเพียงขู่ด้วยความโมโห และมีการกระทบกระทั่งเป็นธรรมดาของผัวเมีย และยอมรับว่าตนเสพยาบ้า กัญชา และดื่มเหล้าขาวผสมกัน จะทำให้นอนหลับสบาย เพราะตนเหนื่อยจากการทำงานก่อสร้าง ส่วนมีดแหลมและระเบิด ตนพกไปขู่ภรรยาให้กลับมาอยู่ด้วยที่บ้านเท่านั้น และไม่ได้จุดฉนวนระเบิด จึงทำให้ระเบิดไม่ทำงาน และขณะหลบหนีไม่รู้ว่าตนทำมีดปลายแหลมที่พกมาขู่ภรรยาหล่นหายที่ไหนไม่รู้”
ในเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกำหมาย” ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง ร.ต.อ.เสถียร วงศ์หาจักร รอง สว.สอบสวน สภ.กุดจับ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…