เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ร.ต.ท.ชานนท์ โสนะโชติ รอง สว.สอบสวนสภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุคนร้ายงัดเพิงร้านอาหารอีสาน “น้องเนยลาบก้อย” ขโมยเครื่องครัวและทรัพย์สินอย่างอื่นไปหลายรายการ ร้านดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยงเมือง อุดรธานี-หนองบัวลำภู ปากทางเข้าวัดป่าบ้านหนองหัวหมู ม.5 ต.นาดี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจชุมชนตำบลนาดี
ที่เกิดเหตุพบนางบุญมี ค้อมศิรินทร์ อายุ 57 ปี ผช.ผญบ.บ้านหนองเคียน ม.7 ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี เจ้าของร้าน นำตำรวจตรวจสอบประตูห้องครัว ที่ใช้สำหรับเก็บทรัพย์สิน พบร่องรอยคนร้ายตัดที่คล้องกุญแจเข้าไปขโมยเอามีดบังตอ 2 เล่ม มีดทำครัว 1 เล่ม หม้อต้มใบใหญ่ 2 ใบ หม้อใช้สำหรับคนลาบ-ก้อย 1 ใบ น้ำปลา 3 ขวด ดีวัวดอง 1 ขวด และเครื่องปรุงอาหารต่าง รวมมูลค่าประมาณ 2,500 บาท
นอกจากนี้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ก็ถูกคนร้ายงัดร้านเข้าไปขโมยเครื่องครัว เครื่องปลุงอาหารจนเกลี้ยงร้าน แถมยังงัดถังแช่ขโมยหมูสดที่เสียบไว้ปิ้งขาย จำนวน 100 ไม้ ราคาไม้ละ 5 บาท รวมเสียหายมูลค่าประมาณ 1 หมื่นบาท รวม 2 ครั้ง ที่ถูกโจรงัดร้านโมยทรัพย์สินไป มูลค่า 12,500 บาท ตำรวจจึงถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ประสานตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อไว้เป็นหลักฐานและเบาะแสในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นางบุญมี ค้อมศิรินทร์ เจ้าของร้าน ให้การว่า ตนเป็น ผช.ผญบ.หนองเคียน ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี มีเงินประจำตำแหน่ง 5,000 บาท และมาประกอบอาชีพเสริม เปิดร้านขายอาหารอีสานอยู่ตรงนี้ได้ 4 เดือน ถูกคนร้ายงัดร้านขโมยทรัพย์สินมา 2 ครั้ง ครั้งแรกยกเค้าทรัพย์สินไปจนเกลี้ยง แต่ตนก็ให้อภัยโจร และไม่ได้แจ้งความ กระทั่งมาถูกคนร้ายงัดร้านอีก ทำให้ตนท้อใจและสุดทนกับพฤติกรรมคนร้าย ที่ไม่ยอมสำนึกแถมยังย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ที่ผ่านมาหากมีคนเร่ร่อนไม่มีข้าวกินตนก็ทำให้กินจนอิ่มท้อง
”ฝากถึงคนร้ายอย่ามาหาลักขโมยของคนอื่นแบบนี้ เพราะต้องหาหยิบยืมเงินมาลงทุนใหม่ ให้คุณโจรไปหางานสุจริตทำจะดีกว่า งานอะไรก็ได้ที่ทำแล้วคนอื่นไม่เดือดร้อน เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีอยู่ด้วย อยากฝากถึงตำรวจให้ช่วยจับโจรที่มาก่อเหตุให้ที เพราะอยากเห็นหน้าโจรจังเลย”….
