“สวนลงเส็ง@นายูง” ตำนานทุเรียนต้นแรก อ.นายูง จ.อุดรธานี 12 ต้น ปลูกมาตั้งแต่ปี 44 ไว้กินเองที่เหลือแจกจ่าย พอราคายางตกต่ำ จึงมาวางขายหน้าบ้าน ลูกค้าประทับใจกลิ่นไม่แรง-หวาน-มัน-กรอบ-นุ่มใน เข้าคิวสั่งจองไว้ล่วงหน้า ทำให้มีชาวบ้านปลูกเพิ่มรวม 294 ไร่ เกษตรอำเภอหนุนเป็น GAP มาแล้ว 3 ปี ประกาศเป้าหมาย “ทุเรียนนายูงGAP”ทุกสวน
สัปดาห์ที่ผ่านมา (14 ก.ค.66) ทีมงานข่าวเดินทางมาที่ “สวนลุงเส็ง@นายูง” บ.ธาตุโปงทอง ม.5 ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี พบกับลุงเส็ง ทองเหง้า อายุ 61 ปี เจ้าของสวนทุเรียน(หมอมทอง) แม้จะเพียง 12 ต้น แต่ก็มีอายุกว่า 22 ปีแล้ว และยังเป็นทุเรียนปลอดภัย หรือ GAP ผลผลิตที่ออกมามีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยทั้งหมดถูกขายที่หน้าสวน และออนไลน์ ในราคาปีนี้ กก.ละ 170 บาท
ลุงเส็ง ทองเหง้า เจ้าของสวนทุเรียนแบบ “เฮ้าส์แบรนด์” นำทีมงานชมสวนตำนานทุเรียนต้นแรก อ.นายูง ที่อยู่บนเนินเขาหลังบ้าน พื้นที่เพียงราวไร่เศษ ที่ต้องทำทางเดินพิเศษขึ้นไป บนยอดเนินเป็นที่ราบสูง มีต้นทุเรียน และต้นเงาะ ปลูกเว้นระยะห่างราว 10 เมตร กระจายอยู่เต็มพื้นที่ โดยมีอีกหลายต้นยังโชว์ผลผลิต ที่ก็ถูกตีตราจองไปหมดแล้ว สำหรับชุดสุดท้ายของปีนี้
“ลุงเส็ง ทองเหง้า” เล่าว่า พื้นที่ อ.นายูง มีสภาพเป็นภูเขาสูง ดินมีความอุดมสมบูรณ์ สภาพสิ่งแวดล้อมดี เมื่อ 26 ปีก่อน ได้เข้ามาปลูกต้นยางพารา ระหว่างรอให้ยางฯโตพอกรีด ก็ไปทำงานรับจ้างที่ จ.ระยอง วันจันทร์-วันศุกร์ ไปทำงานขับรถในนิคมอุตสาหกรรม พอเสาร์-อาทิตย์ ก็ไปช่วยเพื่อนทำสวนผลผลไม้ที่ “สวนพ่อมา” จึงได้สั่งสมความรู้ประสบการณ์กว่า 4 ปี ซึ่งปัจจุบันสวนลุงมา เป็นสวนผลผลไม้เพื่อการส่งออกที่มีชื่อเสียงไปแล้ว
“ 22 ปีก่อนได้นำกล้าผลไม้จาก จ.ระยอง กลับมาปลูกที่ อ.นายูง รวมไปถึงต้นทุเรียน 20 ต้น แต่ปลูกแบบทั่วไปไม่ได้ดูแล เมื่อกลับบ้านมากรีดยางขาย ราคายางดีจนลืมสวนผลไม้ ปล่อยตามธรรมชาติ มีลูกผลก็ไม่ได้ขาย แบ่งให้ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน จนราวปี 58 ราคายางตกต่ำ จึงลองตัดทุเรียนมาขายหน้าบ้าน ปีแรกขาย กก.ละ 50 บาท ได้เห็นเงินแสน จึงกลับมาตั้งใจดูแล มีผลผลิตปีละ 2.5-3.5 ตัน ตั้งแต่มีโควิด-19 ก็มีขายทางออนไลน์ด้วย มีพ่อค้ามาขอเหมาสวนแต่ไม่ขาย เพราะเรามีลูกค้าขาประจำ สั่งกันข้ามปีกลัวเสียคำพูด ”
ลุงเส็งฯ เล่าต่อว่า ทุเรียนที่ อ.นายูง มีคุณภาพดีรสชาติไม่เหมือนที่อื่น พอชาวบ้านเห็นว่าเราปลูกทุเรียนได้ ก็เริ่มมาปลูกกันด้วย ส่วนตัวคิดจะปลูกเพิ่ม แต่ก็เกินกำลังเรา จึงมาสนใจการเพิ่มคุณภาพ เป็นทุเรียนปลอดภัย GAP มาตั้งแต่ปี 64 , 65 และปีนี้ 66 , ทุเรียนทุกลูกที่ตัดขายต้องแก่จัด 120 วันขึ้นไป สำหรับปีนี้ช่วงออกดอกอากาศร้อนมาก ทุเรียนจับลูกน้อย และมาเจอพายุต้นฤดูฝน ผลผลิตจึงๆได้ไม่ถึง 2 ตัน
“ลุงเส็ง ทองเหง้า” เล่าต่ออีกว่า เราแบ่งต้นทุเรียนทั้งหมดเป็น 4 กลุ่มๆละ 3 ต้น เพื่อทำรุ่นทุเรียนเป็น 4 รุ่น ให้แต่ละรุ่นมีลูกและสุกไม่พร้อมกัน ด้วยการกำหนดการให้น้ำ ตั้งแต่ก่อนออกดอก-ขณะออกดอก-ตอนลูกเล็ก-ตอนลูกหนุ่มสาว-ลูกที่เตรียมเก็บผลผลิต ซึ่งแต่ละช่วงทุเรียนต้องการไม่เท่ากัน ทำให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา สวนลุงเส็ง@นายูง ค่อยๆพิจารณาทุเรียนทีละลูก ทยอยเก็บออกมาขาย สัปดาห์หน้าจะเป็นชุดสุดท้ายปีนี้ และมีคำสั่งจองไว้หมดแล้ว
นางกาญจนา วิเท่ห์ เกษตร อ.นายูง เปิดเผยว่า อ.นายูง สามารถปลูกผลไม้ได้ดี อาทิ เงาะ , ลองกอง , ลำไย , มังคุด และทุเรียน สร้างรายได้มากกว่าพืชเดิม จึงมีคนสนใจปลูกมากขึ้น แต่เป็นแปลงไม่ใหญ่ หรือเป็นแปลงผสมผสาน ส่วนแปลงขนาดใหญ่มากกว่า 10 ไร่ เริ่มมีการลงทุนบ้างแล้ว โดยเฉพาะทุเรียน กระจายอยู่ใน 4 ตำบล คือ นายูง , บ้านก้อง , นาแค และโพนทอง มีรวม 65 ราย 294 ไร่
“ ทุเรียนที่ อ.นายูง มีคุณภาพเท่าหรืออาจจะดีกว่า ทุเรียนแหล่งปลูกมีชื่อเสียง มีเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัว อาทิ กลิ่นไม่รุนแรง หวาน มัน กรอบ นุ่มใน ทำให้มีลูกค้าประจำสั่งซื้อจากสวน ขณะที่ อ.นายูง มีชาวสวนที่มีองค์ความรู้ มีประสบการณ์มานาน สามารถถ่ายทอดให้กันเองได้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกษตรฯสนับสนุนสวนผลไม้ปลอดภัย หรือ GAP ซึ่งมี “สวนลุงเส็ง” และอีกหลายสวนได้รับการรับรองแล้ว โดยเรามีเป้าหมาย “ทุเรียนนายูง” จะเป็นทุเรียน GAP ทั้งหมด ”
