เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 22 มิถุนายน 2566 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.อาทิตย์ จันทา รอง ผกก.สืบสวน สภ.กุมภวาปี ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจกว่า 10 นาย ควบคุมตัวนายวุฒิชัย หรือวุฒิ มุงคุลแสน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 13 บ้านนาเพ็ญ ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี มาทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ ที่วัดศรีธาตุ หมู่ 13 บ้านนาเพ็ญ ตำบลท่าลี่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พร้อมด้วยของกลางไม้หน้าสามยาวประมาณ 1 เมตร ที่ก่อเหตุทำร้ายพระดาว โคตรวงษ์ทอง อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัด เหตุเกิดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา
หลังรับแจ้งเหตุ หน่วยกู้ชีพ อบต.ท่าลี่ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่พระดาวอาการสาหัส จึงได้นำตัวส่งรักษาพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งมีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณศีรษะยาว 15 ซม. แขนซ้ายหัก ก่อนที่จะเสียชีวิตประมาณเที่ยงคืนวันเดียวกัน หลังจากนั้นตำรวจได้ทำการสืบสวน จนสามารถผู้ก่อเหตุคือนายวุฒิชัย หรือวุฒิ จึงเดินทางไปทำการจับกุมตัวที่บ้านพัก แล้วทำการตรวจปัสสาวะ ปราฏว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย
โดยในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายวุฒิชัยฯ ได้ไปชี้จุดที่ยืนมองเห็นพระอยู่บนกุฏิ จากนั้นก็เดินเข้าไปหักเอาหน่อไม้ และมาจุดตรงที่มายืน มีปากเสียงกับพระ ก่อนจะเดินไปหยิบเอาไม้ที่วางอยู่บนโอ่งหน้ากุฏิ แล้วนำเอามาตีเข้าที่หัวพระไป 2 ครั้ง และพระได้ยกแขนขึ้นมากัน ก็ถูกตีเข้าไปที่แขนซ้าย แล้วก็ปั่นจักรยานกลับไปที่บ้าน ซึ่งขณะทำแผนก็มีชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนดูกันเป็นจำนวนมาก และก็ยังมีนายทองสุข โคตรวงษ์ทอง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 220 หมู่ 7 ต.หนองซน อ.นาทม จ.นครพนม เป็นลูกชายของพระผู้ตายมาดูได้ตะโกนด่านายวุฒิชัยฯ คนก่อเหตุ
นายสุนทร โชติมนทิน อายุ 52 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนกำลังหั่นปีกไม้เพื่อสร้างกุฏิ แล้วก็เห็นคนก่อเหตุเดินมาถือเอาหน่อไม้ออกไป 1 ครั้ง คนก่อเหตุก็กลับมาครั้งที่ 2 มาเจอพระผู้ตาย จึงได้ต่อว่าผู้ก่อเหตุที่มาหักเอาหน่อไม้ไป ตนไม่ได้สนใจ เดินเข้าไปดื่มน้ำอยู่ในกุฏิอีกหลัง ไม่นานได้ยินเสียงเถียงกัน ตามด้วยเสียงตีกัน ตนเลยรีบวิ่งออกมาห้าม พระท่านนอนฟุบอยู่ คนก่อเหตุก็เลยวางไม้ลง แล้วปั่นจักรยานกลับไปบ้าน คนก่อเหตุจะมาเล่นที่วัดประจำ หน่อไม้พระท่านปลูกเอาไว้ ท่านหวงไม่ให้ใครมาเอาไป ให้ขยายพันธุ์ แต่คนก่อเหตุไม่ฟังก็มาหักเอาไป ครั้งแรกพระไม่รู้ และก็จะกลับมาหักเอาไปอีก เลยมีปากเสียงแล้วก็ตีพระ คนก่อเหตุคงจะบาปมากที่มาก่อเหตุแบบนี้
นายทองสุข โคตรวงษ์ทอง ลูกชายพระ บอกว่า พ่อบวชมาได้ 20 พรรษา และมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ได้ 10 ปี บางทีก็เดินทางไปจำพรรษาที่วัดอื่นต่างจังหวัด โดยเพิ่งกลับมาที่วัดนี้ได้เพียง 3 เดือน หลังจากมีคนโทรไปบอกว่า พ่อโดนทำร้ายเสียชีวิต ตนจึงได้เดินทางมาดู ตนเชื่อว่าพ่อไม่ไปทำร้ายใครก่อน มีแต่ตักเตือนคนอื่น หากทำอะไรไม่ถูกต้องเท่านั้นเอง เนื่องจากพ่อไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่ตนก็ติดใจญาติของผู้ต้องหา ที่ไม่มาพบหรือมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวของตน อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในขั้นสูงสุด
“พ่ออายุมากแล้ว จิตใจทำด้วยอะไรทำไมถึงต้องทำกันถึงขนาดนี้ คิดว่าจิตของเขามันไม่ใช่คนไม่ต่างกับสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งตนไม่ให้อภัยเขา หากเป็นคนไม่ดีหรือเป็นคนเกเรอย่างน้อยต้องมีจิตสำนึกบ้าง เด็ก คนแก่ ผู้หญิง ไม่สมควรที่จะไปทำร้าย โดยเฉพาะพระที่อยู่ในผ้าเหลืองด้วยไม่สมควรที่จะทำ” จากนั้นลูกชายได้จุดธูปบอกดวงวิญญาณ ไม่ต้องห่วงลูกหลาน ตอนนี้ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้ว เขาได้กรรมกับสิ่งที่เขาก่อแล้ว ขอให้พระพ่อไปสู่สุขคติ ไปสู่ภพภูมิที่ดี บนสวรรค์ นอกจากนี้ญาติฝ่ายพระและชาวบ้าน ทำการจุดธูปให้พระดาวไปสู่สุขคติ พร้อมกับสาปแช่ง คนร้ายที่ทำร้ายพระ
นายวุฒิชัยฯ ผู้ต้องหา บอกว่า ตนเองได้ปั่นจักรยานเข้ามาในวัด แล้วมาหักหน่อไม้จำนวน 4 หน่อ ที่อยู่ใกล้กับกุฏิพระดาว เพื่อจะเอาไปขายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน และเพื่อที่จะเอาเงิน 30 บาท ไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่ก็โดนพระดาวด่าต่อว่า แล้วโดนพระเอามีดมาฟาดเข้าที่หูตน ทำให้โมโห จึงเดินไปเอาไม้หน้าสาม ที่อยู่บนโอ่งแดงหน้ากุฎิพระ ตีเข้าที่แขนพระ1 ครั้ง และตีเข้าที่ศีรษะพระ 1 ครั้ง ก่อนที่ตนจะปั่นจักรยานกลับไปที่บ้าน พร้อมกับหน่อไม้ โดยตนพึ่งเข้ามาหน่อไม้ในวัดเป็นครั้งแรก หลังจากรู้ว่าคนอื่นก็เข้ามาเอาหน่อไม้เหมือนกัน ก่อนที่จะเข้ามาเอาหน่อไม้ ตนได้เสพยาบ้ากับเพื่อนไปแล้ว 2 เม็ด ตนไม่เสียใจที่ทำร้ายพระ เนื่องจากป้องกันตนเอง โดยพระทำร้ายตนก่อน
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า นายวุฒิชัยฯ นั้นชอบเข้าเล่นที่วัด เพราะบ้านอยู่ใกล้ ซึ่งได้มีปากเสียงกับพระดาว แล้วใช้ไม้หน้าสามขนาด 1 เมตร ตีเข้าไปที่ท่อนแขน และครั้งที่สองก็ตีที่ศีรษะ ซึ่งเบื้องต้นได้นำตัวมาชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” และ เสพยาเสพติดประเภท 1 หรือยาบ้า โดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมานต่อไป