วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมอุดรฯโจรชุมแคมป์คนงานก่อสร้างก็ไม่เว้นลักข้าวสารกลางวันแสกๆ

อุดรฯโจรชุมแคมป์คนงานก่อสร้างก็ไม่เว้นลักข้าวสารกลางวันแสกๆ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2566 ร.ต.อ.สรวิศิษฎ์ มีเพียร รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากนายเสริม พุ่มมี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.5 ต.อรพิมพ์ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่ามีคนร้ายเข้าไปงัดเอาทรัพย์สินหลายรายการ ในเพิงพักคนงานก่อสร้าง ซอยริมหนองบัว 3 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ก่อนนำไปชี้จุดเกิดเหตุ

นายเสริมฯ เล่าว่า ครอบครัวตนเองและญาติพี่น้องคนรู้จักจาก อ.ครบุรี ถูกว่าจ้างจากผู้รับเหมาให้มาทำงานก่อสร้างบ้านพักส่วนตัว ภายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี มาด้วยกันประมาณ 20 คน สัญญาจ้าง 4 เดือน เพิ่งมาทำงานกันได้ประมาณ 20 วัน และได้เช่าที่เปล่าเดือนละ 3,000 บาท บริเวณที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักประมาณ 10 หลัง แต่ละหลังยกพื้นสูง ใช้สังกะสีและผ้าใบล้อมเป็นห้อง มุงสังกะสี อยู่ห่างจากไซต์งานประมาณ 2 กม. เช้าก็จะออกไปทำงาน เที่ยงจะกลับมากินข้าว เย็นก็จะเข้ามาพักผ่อน จะมีเพียงป้าสะใภ้กับหลานสาวเฝ้าแคมป์คนงานให้

“เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา พวกตนออกไปทำงานตามปกติ ประมาณ 13.30 น. หลังจากเทปูนเสร็จได้กลับมาที่เพิงพัก เมื่อมาถึงก็พบว่าประตูถูกงัดออก ภายในห้องมีร่องรอยการถูกรื้อค้น มีเศษข้าวสารกระจายเกลื่อนพื้น ตรวจสอบก็พบว่า ข้าวสารหอมมะลิ 1 กระสอบครึ่ง ประมาณ 70 กก. หายไปทั้งหมด รูปหล่อองค์พระพิฆเนศ ขนาดหน้าตักประมาณ 1 นิ้ว 4 องค์ สร้อยทับทิม 1 เส้น บนหิ้งพระหายไป เมื่อตรวจสอบห้องลูกสาวและลุกเขยที่อยู่ถัดไป 2 ห้อง ก็พบว่าถูกคนร้ายมุดเข้ามาที่ห้องนี้ก่อน ตรวจสอบก็พบว่ามีร่องถูกรื้อค้นเช่นกัน กระปุกออมสินมีเงินประมาณ 1,400 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง J7 1 เครื่อง ที่ใช้เป็นเครื่องสำรองถูกขโมยไป ป้าสะใภ้ที่เฝ้าอยู่ก็ไม่ได้ยินเสียง”

นายเสริมฯ เล่าอีกว่า ข้าวสารที่หายไปตนเอามาจากบ้าน เป็นข้าวที่ญาติปลูกเอง และแบ่งมาให้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ เอามาทั้งหมด 2 กระสอบครึ่ง พวกตนต้องไปหาซื้อข้าวสารมาเพิ่ม 10 กก. ข้าวของที่หายไปทั้งหมด ตนเสียดายแต่องค์พระพิฆเนศ เพราะตนบูชามานานแล้ว เป็นของที่ตนสะสม รักและบูชาอย่างมาก พอเรื่องเกิดขึ้นตนได้รอปรึกษาผู้รับเหมา เขาก็บอกให้มาแจ้งความไว้ ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต หายไปก็ซื้อใหม่ พวกตนเพียงแค่ห่วงความปลอดภัยของญาติที่เป็นผู้หญิง ที่ต้องเฝ้าแคมป์ตามลำพัง วอนเจ้าหน้าที่หมั่นเข้ามาตรวจตราให้มากขึ้น ห่วงความปลอดภัยในชีวิตคนมากกว่า ตอนที่ก่อเหตุเป็นตอนกลางวัน แต่คนร้ายก็ยังลงมือก่อเหตุ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ภายในเพิงพักถูกเก็บกวาดไปแล้วบางส่วน คนร้ายน่าจะมาดูลาดเลามาก่อน โดยลอบเข้ามาทางด้านหลังแคมป์ ปีนข้ามรั้วลวดหนามเข้ามาก่อเหตุ และใช้จุดขนข้าวสารและของทั้งหมดข้ามไป และมีรอยเลือดหยดเป็นทางไปทางหน้าปากซอย คาดว่าจะเป็นเลือดของคนร้าย ที่อาจจะถูกลวดหนามเกี่ยวจนบาดเจ็บ และจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี เพื่อติตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments