จากกรณีผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Faifai Sukanya (ฝ้าย) ได้โพสต์ภาพผู้ชาย พร้อมเขียนข้อความว่า “ใครพอจะรู้จักผู้ชายคนนี้ รบกวนติดต่อกลับด้วยนะคะ พอดีเราต้องการช่วยส่งเขากลับบ้านที่เมืองไทย พี่เขาโดนจับที่ประเทศจีนมาเป็นปีแล้ว เขาไม่ทีเอกสารอะไรสักอย่าง เขาพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง รู้แค่ว่าเขาเป็นคนอุดร พ่อแม่อยู่อำเภอทุ่งฝน ใครที่รู้จักญาติ หรือเป็นญาติรบกวนติดต่อกลับมาหาทางเราด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ ซึ่งมีผู้เข้าไปกดไลค์และแชร์จำนวนมาก
ต่อมาเวลา 15.00 น. วันที่ 11 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับน้องฝ้ายทางเฟซบุ๊ก เพื่อสอบถามเรื่องราวของชายคนดังกล่าว กระทั่งได้ขอ ID ไลน์ และวีดีคอลสอบถามพูดคุยกับน้องฝ้าย โดยน้องฝ้ายเล่าว่า ตนชื่อ น.ส.สุกัญญา พลรักษา อายุ 29 ปี เป็นราษฎรบ้านหนองแปน ต.หนองแปน อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร แต่งงานกับชาวจีนและมาอยู่ที่เมืองเทียนสุ่ย มลฑล กานซู ประมาณ 5 ปี ต่อมาได้มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเทียนสุ่ย มาขอให้ตนไปเป็นล่ามให้กับชายที่หลบหนีเข้าเมือง อ้างว่าเป็นคนไทย บ้านอยู่ จ.อุดรธานี จึงได้เดินทางไปพบกับชายคนดังกล่าว
น้องฝ้าย เล่าต่อว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเปิดเผยว่า ชายคนดังกล่าวใช้ล่ามมาพูดคุยสอบถามถึง 7 คน แต่ไม่สามารถสื่อสารได้ นำตัวไปกงสุลไทยก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคนไทย เพราะไม่มีหนังสือเดินทาง (Passport) บัตรประชาชนชาวไทย หรือเอกสารทางราชการ ไม่สามารถส่งกลับไทยได้ จึงถูกขังไว้ น้องฝ้ายเป็นล่ามคนที่ 8 และเข้ามาสอบถาม ชายคนดังกล่าวซึ่งพูดภาษาไทยไม่ชัด เหมือนคนพูดไม่อ้าปาก ลิ้นพันกันคล้ายคนเขมร ต้องจับใจความ
น้องฝ้าย เล่าต่อไปว่า เขาอ้างว่าชื่อนายประกอบ เชื้อแสง อายุ 45 ปี ตำบลนาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี พ่อชื่อนายจรัญ เชื้อแสง อายุ 75 ปี แม่ชื่อ นางชุลี สิวะ 70 ปี พ่อขับรถรับส่งนักเรียน หลบหนีเข้ามาจีนทางตะเข็บชายแดน ทางช่องทางธรรมชาติด้วยการนั่งเรือ และถูกตำรวจจับเมื่อปี 2019 ทำงานที่เขตหยูหนาน กำลังเดินทางกลับบ้าน ช่วงเนื่องจากโควิด-19 ระบาด ตำรวจจึงตรวจสอบ แต่ตรวจไม่พบ QR CODE ว่าได้รับวัคซีนเหมือนชาวจีนทั่วไป จึงถูกจับ
“ชื่อที่เขาให้มา ตนไม่มั่นว่ามีจริง เพราะว่าเขาพูดสำเนียงไม่ชัด พูดไทยไม่ชัด พูดจีนก็ไม่ชัด เหมือนลิ้นไก่สั้น แถมพูดไม่อ้าปาก จึงตัดสินโพสต์ภาพพี่ประกอบทางเฟซบุ๊ก เพื่อให้คนไทยช่วยค้นหาที่อยู่ บ้าน พ่อ แม่ หรือญาติ เพื่อจะได้นำบัตรประชาชน และเลข 13 หลักมายืนยันว่านายประกอบเป็นคนไทยจริง เพื่อจะได้นำนายประกอบกลับเมืองไทย ไม่ต้องมาถูกคุมขังอยู่ที่นี่”
ผู้สื่อข่าวจึงพูดคุยกับนายประกอบทางวีดีโอคอล โดยนายประกอบทักทายด้วยคำว่า “สวัสดีครับ” แต่พูดไม่ชัด สื่อสารได้ลำบากมาก ผู้สื่อข่าวจึงถามนายประกอบว่า ร้องเพลงชาติไทยได้หรือไม่ นายประกอบตอบว่าร้องได้ จึงขอให้นายประกอบร้องเพลงชาติให้ฟัง ซึ่งนายประกอบได้ร้องเพลงชาติอย่างตั้งใจจนจบเพลง ผลปรากฏว่าร้องทำนองถูกต้อง แต่เนื้อเพลงผิดหมด จากนั้นก็ได้ขอให้ท่องพยัญชนะ ก – ฮ นายประกอบกลับพูดเป็นภาษาอื่น ซึ่งฟังไม่รู้เรื่องว่าหมายถึงอะไร
และจากการประสานงานกับตำรวจสืบสวน สอบสวน อาชญกรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ ให้ตรวจสอบบุคคลที่ชื่อนายประกอบ เชื้อแสง อายุ 45 ปี ชาว อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี และชื่อบิดา มารดา ที่นายประกอบกล่าวอ้าง ปรากฏว่า ชื่อทั้งหมดไม่ปรากฎในทะเบียนราษฎร์ สรุปว่านายประกอบ เชื้อแสง คือใคร จะช่วยให้เขากลับบ้านได้อย่างไร