เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ขณะที่ ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ. รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุคนร้ายเป็นหญิงแต่งชุดดำ สวมหมวกปีกสีขาว แมสก์สีชมพู ก่อเหตุขโมยกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ ข้างในมีบัตร ATM 2 ใบ บัตรประชาชน ใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป้ สีดำ 1 เครื่อง
เหตุเกิดที่หน้าร้านของชำคิวรถบ้านผือ ตลาดรังษิณา ถ.อุดรดุษฎี เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมีหลักฐานกล้องวงจรปิดหน้าร้านบันทึกขณะก่อเหตุเอาไว้ได้ ซึ่งหลังคนร้ายก่อเหตุผู้ชายที่เป็นคนงานของร้าน ได้วิ่งติดตามควบคุมตัวพร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่พบกระเป๋าที่เอาขโมยไป จึงรุดออกไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ นางระนอง ยารังสี อายุ 74 ปี เจ้าของร้านของชำ และนายพรหมมินทร์ จรูญพงษ์ หรือหนุ่ม อายุ 46 ปี คนงานร้านขายต้นไม้ ชี้ให้ตำรวจจับกุมตัว น.ส.ลุน โพธิ์วงศ์ อายุ 58 ปี ชาว ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี คนร้ายที่ก่อเหตุที่ยังมีอาการเมาเหล้า บอกว่ารู้จักกับผู้เสียหาย แต่คุณยายระนองฯ บอกไม่เคยเห็นหน้าและไม่รู้จักกันเลย น.ส.ลุนฯ จึงยอมรับว่าได้ก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือไปจริง แต่ให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ขโมยกระเป๋าสะพายของคุณยายระนองฯ ไปในรอบแรก
แต่หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ถึง 2 รอบ โดยในรอบแรกเดินเข้ามาก่อเหตุเวลา 11.13 น. เดินย่องเข้ามาด้านหลังผู้เสียหาย ขณะนั่งพูดคุยกับลูกค้าอยู่บนเก้าอี้หลังแผงขายเครื่องดื่มหน้าร้านของชำ หยอบเอากระเป๋าของผู้เสียหายไป และหยุดเปิดกระเป๋าดูที่หน้าร้านขายต้นไม้ ซึ่งเป็นร้ายของผู้เสียหายเช่นกัน ก่อนคนร้ายจะเดินหายเข้าไปในซอยพร้อมกระเป๋าที่ลักไป
ผ่านไปประมาณ 10 นาที คนร้ายได้เดินกลับมาที่ร้าน ขณะคุณยายกำลังสั่งให้คนงานที่เป็นผู้หญิง (เสื้อแดง) ไปซื้อสินค้าเข้าร้าน โดยคนร้ายทำทีตีเนียนเหมือนกับรู้จักสนิทสนมกับผู้เสียหาย ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายที่วาอยู่เคาน์เตอร์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง และเดินหลบหนีไป ผู้เสียหายได้ร้องบอกนายพรหมมินทร์ จรูญพงษ์ คนงานที่ดูแลร้านขายต้นไม้วิ่งไล่ติดตามตัวพร้อมมือถือของกลางห่างจากร้านประมาณ 100 เมตร
สอบสวน น.ส.ลุนฯ คนร้ายที่ยังมีอาการเมาเหล้าและให้การวกวนว่า ตนไม่มีงานทำ และยอมรับก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายจริง แต่ให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ได้ขโมยกระเป๋าสะพายของคุณยายแต่อย่างใด ก่อนก่อเหตุตนมาจาก ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี เพื่อมาหาสมัครงาน และได้พูคุยกับคุณยายฯ ก่อนลงมือลักมือถือใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลังของตนเอง ที่ก่อเหตุเพราะไม่มีเงิน และกินเหล้าขาวไป 1 ขวด ก่อนถูกคนงานร้านขายต้นไม้ของผู้เสียหายวิ่งตามจับตัวไว้ได้
นายพรหมมินทร์ จรูญพงษ์ หรือหนุ่ม คนงานดูแลร้านขายต้นไม้ เปิดเผยว่า ขณะตนกำลังยืนรดน้ำต้นไม้ที่หน้าร้าน คุณยายระนองฯ ซึ่งเป็นนายจ้างร้องบอกให้ตนวิ่งไล่ติดตามจับคนร้ายก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือไป ตนจึงวิ่งไล่ติดตามไปจับตัวไว้ได้พร้อมของกลาง ห่างจากร้านประมาณ 100 เมตร แต่ไม่พบกระเป๋าสะพายของคุณยายฯ คาดว่าคนร้ายคงนำไปทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่งบริเวณหลังร้าน และคนร้ายปฏิเสธและไม่ยอมบอกว่านำไปทิ้งที่ไหน
ด้านนางระนองฯ ผู้เสียหาย ก่อนเกิดเหตุตนกำลังยืนพูดคุยกับคนงานที่เป็นผู้หญิง เพื่อให้สั่งสินค้าเข้าร้านของชำ โดยตนเขียนสินค้าและพูดรายละเอียดให้กับคนงานที่เป็นผู้หญิง และไม่รู้ว่าคนร้ายมาจากไหนเดินมาทำทีพูดคุยกับตน ซึ่งเป็นปกติที่ตนมีอาชีพค้าขายที่ต้องพูดคุยกับคนทั่วไป และคนงานที่เป็นผู้หญิงก็นึกว่าตนรู้จักกับคนร้าย จึงไม่ได้สนใจ คนร้ายได้เดินมาเปิดลิ้นชักเคาน์เตอร์ ตนได้ถามว่าคุณเป็นใคร แต่คนร้ายไม่ตอบ ก่อนอาศัยจังหวะเผลอขโมยมือถือของตนไป
”จึงร้องบอกให้คนงานผู้ชายวิ่งติดตามไปจับตัว และคนร้ายได้คืนมือถือให้ตน เมื่อหากระเป๋าที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์ก็ถูกขโมยไป แต่โชคดีที่ตนไม่ได้เก็บเงินไว้ในกระเป๋า จึงให้คนงานเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันที่ขโมยเอาไปทั้งมือถือและกระเป๋า ซ้ำยังมาหาว่าเราใส่ร้ายเขาว่าขโมยกระเป๋าไป ทั้งที่หลักฐานวงจรปิดชัดเจน”
ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพักและแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์” ดำเนินคดีตามขั้นตอนของก็หมาย และจากการตรวจสอบประวัติคนร้ายทราบว่า เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ไปก่อเหตุลักสบู่ จำนวน 2 ก้อน ภายในร้านสะดวกซื้อสาขา ถ.มุขมนตรี และอยู่ระหว่างควบคุมความประพฤติ แต่ไม่ยอมเข็ดหลาบกลับมาก่อเหตุซ้ำในครั้งนี้….