เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ร.ต.ท.ศุภกร ทุมจีน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก น.ส.วศิรา ทองเกลี้ยง อายุ 29 ปี ชาวกรุงเทหมหานคร พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่ามีโจรเข้ามาในร้านอาหาร Gostoso Brazilian Café ถ.ทองใหญ่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยร้านมีร่องรอยการกรีดผ้าใบร้านจนพังเสียหาย เพื่อมุดเข้าไปขโมยทรัพย์สิน และหลังรับแจ้งจึงประสานให้ตำรวจสืบสวนลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพื่อหาเบาะแสคนร้าย
ในที่เกิดเหตุเป็นเต็นท์โดมขนาดใหญ่ ทำเป็นร้านอาหาร ที่บริเวณด้านข้างเต็นท์มีร่องรอยถูกของมีคมกรีดยาวเป็นช่องขนาดใหญ่ คนสามารถมุดเข้ามาได้ ซึ่งคนร้ายใช้เป็นทางเข้ามาในร้าน ตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าลำโพงบลูทูธ 1 ตัว แทบเล็ต 1 เครื่อง มูลค่าราคาประมาณ 7,000 บาท หายไป
นายมีนาคม ประทุมทิพย์ พนักงานร้าน เล่าว่า ตนเข้ามาที่ร้าน เวลา 06.30 น. ขณะกำลังจัดร้านเพื่อเตรียมเปิดบริการ พอเปิดม่านออกมาก็เห็นเต็นท์มีรอยกรีดเสียหายจึงแจ้งเจ้าของ สำหรับร้านอาหารแห่งนี้เปิดมาได้ 3 เดือน โดยเปิด 7.00-20.00 น ทุกวัน จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าโจรเข้ามาในเวลา 04.05 น. เป็นชายสวมใส่เสื้อฮู้ด สวมหมวกแก๊ป สะพายกระเป๋าเป้ มีกระเป่าคาดเอวสีแดง เมื่อเข้ามาได้นำไฟฉายออกมาจากกระเป๋าแล้วส่องหาของมีค่าภายในร้าน ซึ่งใช้เวลาราว 10 นาที จึงออกไป
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พบว่ามีชายต้องสงสัย รูปพรรณตามที่ภาพกล้องวงจรปิดบันทึกได้ จึงได้ตรวจสอบตามบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ จนทราบว่า คนร้ายอาศัยอยู่ในป่ารกร้าง ถนนรังสรรค์ ด้านหลัง บขส. จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ พบนายชัชวาล เยือกเย็น หรือเอ็ม อายุ 30 ปี กำลังนอนอยู่ในเพิงพัก ตรวจค้นพบลำโพงบลูทูธ 1 ตัว แท็บเล็ต 1 เครื่อง เสื้อผ้าคลุมและกระเป๋า ที่ใช้ก่อเหตุ จึงความคุมตัวมาที่โรงพัก
นายชัชวาลฯ สารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจับกุมคดีลักทรัพย์และพ้นโทษออกมา ตนไม่ได้ทำงานอะไรอยู่กับภรรยา ซึ่งป่วยเป็นโรคไทรอย จะออกหารับจ้างทำความสะอาดตามร้านอาหาร หรือมีใครจ้างอะไรก็ไปทำ เพื่อได้เงินมารักษาภรรยา ระยะหลังไม่มีคนจ้างจึงไม่มีงานทำและไม่มีเงินใช้ ตนได้มาทำเพิงพักอาศัยในป่าภายในซอยหลัง บขส.แห่งที่1 ซึ่งก่อนไปก่อเหตุตนจะเดินไปสวนสารธารณะหนองสิม แต่ได้เดินผ่านมาเห็นร้านอาหาร จึงได้ใช้มีดคัตเตอร์ที่พกมากรีดผ้าใบด้านข้างเข้าไปค้นหาของมีค่า แต่ไม่พบอะไร จึงได้ขโมยลำโพงและแท็บเล็ต ใส่กระเป๋าเป้และเดินกลับมาที่พัก จนมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
น.ส.ชลัชพร แก้ววงษา 32 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนมาเปิดร้านอาหารได้ไม่กี่เดือน เพราะได้ลงทุนสถานที่ และติดตั้งโดมราคา 3 แสนบาท ตั้งแต่เปิดร้านมาไม่มีใครเฝ้าร้านช่วงกลางคืน โดยไม่คิดว่าจะถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ แต่ครั้งนี้คนร้ายมากรีดผ้าใบได้รับความเสียหาย และขโมยลำโพง และแท็บเล็ตไป เพราะคิดว่าอยู่ในตัวเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตรวจเข้มงวด จึงไม่ได้ป้องกันอะไรมาก เพียงแค่ติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ ตนไม่คิดว่าคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุ ตนก็เห็นใจเพราะว่าเขาก็ลำบากแต่ก็ไม่ควรจะทำแบบนี้ ให้คนอื่นได้รับความเสียหาย เบื้องต้นจะต้องเปลี่ยนผ้าใบใหม่ และจะไม่เก็บของมีค่าไว้ในร้านอีก
เนื่องจากคนร้ายตระเวนก่อเหตุหลายจุดทางตำรวจจะทำการขยายผลเพิ่มเติม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป