วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมระดมกำลังตามหา“น้องมะลิ”เดินตามหมาหลงป่า 4 ชม.

ระดมกำลังตามหา“น้องมะลิ”เดินตามหมาหลงป่า 4 ชม.

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2565 ร.ต.อ.นิติพันธ์ สุภะดี รอง สวป.สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรานี ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ว่า นายมงคล ดอนขัน ผู้ใหญ่บ้านวังทอง หมู่14 ต.หนองไฮ อ.เมืองอุดรธานี แจ้งขอกำลังสนับสนุนค้นหา เด็กหญิงอายุ 2 ขวบ 5 เดือน หายจากกระท่อมในสวนยาง  ท้ายหมู่บ้านวังทอง ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี  พ่อแม่และญาติตามหา 3 ชั่วโมงแล้วแต่ไม่พบ จึงขอกำลังสนับสนุนด้วย จึงนำกำลัง และประสาน ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือผู้ประสบเหตุบนท้องถนน  เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองไฮ  รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ไม่มีฝาบ้าน ใช้สังกะสีกั้นห้องนอน อยู่ในสวนยางพารา หน้าบ้านอยู่ห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร หลังบ้านเป็นไร่มันสำปะหลัง และป่ารกทึบ มีชาวประมาณ 20 คน มาช่วยตามหาเด็กหาย โดยนายวิฑูรย์ โพนงาม อายุ 37 ปี  และน.ส.บุญจิรา มุ่งดี อายุ 22 ปี  พ่อและแม่ น้องมะลิ หรือ ด.ญ.มะลิ โพนงาม อายุ 2 ปี 5 เดือน ที่หายออกจากบ้าน โดยทั้งสองมีสีหน้าเป็นกังวล อย่างเห็นได้ชัด

นายวิฑูรย์ เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างกรีดยางและปลูกมันสำประหลัง  มีน้องมะลิเป็นลูกคนเดียว และเลี้ยงสุนัขพันธ์ไทยเพศเมียสีขาวชื่อ “เหี่ยน” ไว้เป็นเพื่อน ก่อนเกิดเหตุ  ตนออกไปรับจ้างปลูกมันสำประหลัง  ให้น้องมะลิอยู่บ้านกับแม่ ต่อมามีเพื่อนบ้านมาบอกตนว่า น้องมะลิหายจากบ้าน ไม่รู้ว่าหายไปไหน ชาวบ้านออกติดตามหา แต่ยังไม่พบตัว ตนจึงรีบกลับมาบ้านทันที รู้สึกห่วงน้องมะลิมาก เกรงว่าน้องมะลิจะเดินไปตกน้ำตกท่า หรือหลงป่า เพราะตนมีลูกคนเดียว

ส่วนน.ส.บุญจิรา แม่น้องมะลิ เล่าว่า  ตนอยู่บ้านกับน้องมะลิสองคน สายวันนี้มียายเดินมาเก็บฟืน น้องมะลิเห็นจึงอยากลงไปเก็บฟืนกับยาย แต่ตนไม่ให้ลงไป หลังยายเก็บฟืนเสร็จได้เดินมาเล่นกับน้องมะลิ  ไม่นานยายก็กลับไปตนก็อุ้มน้องมะลิไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นพาขึ้นบนบ้านไปกินนม หลังกินนมเสร็จน้องมะลิเดินลงมาเล่นกับสุนัข ส่วนตนเล่นโทรศัพท์อยู่บนบ้าน ไม่รู้ว่าเล่นโทรศัพท์นานแค่ไหน พอมองหาลูกก็ไม่พบแล้ว หลังจากเรียกหาน้องมะลิรอบบ้านไม่เห็น ตนก็ไปบอกญาติและผู้ใหญ่บ้าน ระดมชาวบ้านตามหา ประมาณ 3 ชั่วโมงก็ไม่พบ

ก่อนติดตามหาน้องมะลิ  ชาวบ้านให้นายวิฑูรย์ และน.ส.บุญจิรา ได้จุดธูปบอกกล่าวขอให้เจ้าที่เปิดทางให้พบน้องมะลิ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสากู้ภัย จิตอาสา และชาวบ้าน ได้ระดมค้นหาน้องมะลิไปทางหลังบ้านซึ่งเป็นไร่มันสำปะหลัง และป่าห่างจากภูพานน้อยประมาณ 3 กิโลเมตร จากการระดมค้นหาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะที่ น.ส.บุญจิรา ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ น.ส.สุดใจ แสนเย็น อายุ 26 ปี เพื่อนบ้าน ติดตามหาน้องมะลิไปทางหลังบ้าน ซึ่งเป็นถนนลูกรังสองข้างทางเป็นไร่มันสำประหลัง และป่ายูคาลิปตัส และป่ารกทึบสลับกัน ห่างจากบ้านน้องมะลิประมาณ 2 กิโลเมตร จึงจอดรถดูรอยเท้าเด็ก

ต่อมาได้ยินเสียงเด็กเรียก “แม่” ออกมาจากป่า จึงดับเครื่องรถจักรยานยนต์ฟังเสียง และตะโกนเรียกชื่อน้องมะลิ 3 ครั้ง ก็ได้ยินเสียงเรียกตอบกลับมาว่า “แม่”  น.ส.บุญจิรา จึงรีบเดินเข้าไปในป่ายูคาลิปตัสตามเสียงเรียกประมาณ 10 เมตร ก็ไปพบน้องมะลินั่งพับเพียบอยู่ใต้พุ่มไม้ สีหน้าตกใจ และอิดโรย พอเห็นแม่และน.ส.สุดใจ น้องมะลิได้ร้องไห้โฮ จึงอุ้มน้องมะลิออกมาจากป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองไฮ นำตัวน้องมะลิไปตรวจร่างกายที่ รพ.สต. รวมเวลาที่น้องมะลิเดินหลงป่า ประมาณ 4 ชม.

น.ส.บุญจิรา เล่าว่า  ขี่รถมาถึงที่พบน้องมะลิ ก็พบรอยเท้าเด็ก จึงร้องตะโกนเรียกชื่อ น้องมะลิก็เรียกแม่ตอบมา พอรู้ว่าอยู่จุดไหน ก็เข้าไปพบลูกนั่งอยู่พงหญ้าสูง และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ก็รู้สึกดีใจ โล่งใจมาก รีบวิ่งไปอุ้มลูกออกมา และต่อไปจะดูแลลูกอย่างดี ไม่ให้ห่างสายตา จะพยายามไม่เล่นโทรศัพท์ น้องมะลิเดินไปไหน จะเดินตามไปด้วย

น.ส.รัชนี พันนาดอน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า บ้านน้องมะลิตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างจากหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร  ทำให้เด็กไม่มีเพื่อนเล่นนอกจากเล่นสุนัข  น้องมะลิเล่นกับสุนัข7แม่เล่นโทรศัพท์อยุ่บนบ้านไม่ได้มองลูกไม่รู้ว่านานแค่ไหน พอหารู้ตัวว่าน้องมะลิหายไป จึงมาแจ้งผู้ใหญ่บ้าน  ก่อนออกตามหาได้ไปจุดธูปที่บ้านบอกเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั้นประมาณ 30 นาทีได้ไปจุดธูปที่บริเวณป่าสวนปาล์มบอกกล่าวเจ้าป่าเข้าเขา เจ้าหน้าที่และชาวบ้านระดมออกมาช่วยตามหา ก็มาพบรอยเท้าเด็กบนทางดิน สองข้างเป็นไร่มันสำประหลังและป่ารกทึบ ห่างจากบ้าน 2 กิโลเมตร  ก็ได้ยินเสียงเรียก “แม่” จากในป่า จึงเข้าไปจนพบน้องมะลินั่งอยู่ในป่า ที่หาไม่พบเพราะผีบังตา แต่พอจุดธูปบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือก็ทำให้พบเด็ก  ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องมะลิเดินเข้าป่าเพราะเดินตามสุนัขมา จึงทำให้หลงเข้าไปในป่า แต่โชคดีที่พบน้องมะลิก่อนมืดค่ำ เพราะว่ากลางคืนจะมืดและอากาศหนาวมาก เด็กคงกลัวและทนหนาวไม่ได้

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments