จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อกิ๊พเก๋ สิริณภัชร ธีระคุณ โพสต์ภาพมีคนร้ายเข้ามาทุบธาตุบรรจุโกศเถ้าอัฐิ บริเวณรั้ววัด พร้อมกับเขียนข้อความว่า #ตรวจสอบความเสียหายตามธาตุใส่กระดูกต่างๆ หลังจากผู้ร้ายบุกโจรกรรมขโมยโกศเก็บกระดูก เลือกเอาเฉพาะทองแดงและทองเหลือง เทกระดูกเกลื่อนหน้าธาตุ…ณ.วัดน้อยศรีมงคล
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบพระสิริณภัชร์ สิริธโร พระลูกวัดน้อยศรีมงคล บ้านแสงสว่าง หมู่ 1 ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นผู้โพสต์เหตุคนร้ายลอบเข้ามาทุบธาตุลักโกศ โดยพระสิริณภัชร์ เล่าว่า เมื่อ 2 วันก่อน มีเหตุคนร้ายเข้ามาทุบธาตุ เพื่อลักโกศทองเหลือง ทองแดง ตามแนวรั้ววัด และได้เทอัฐิที่ลูกหลานใส่โกศไว้กราบไหว้ทิ้ง ซึ่งตนมาตรวจสอบธาตุของปู่ย่าตายายญาติพี่น้องของตน จำนวน 3 องค์ที่ตั้งอยู่รั้ววัดด้านหลังกุฎิของตน
พบว่าช่องใส่โกศของญาติตนถูกทุบแตก โกศทองเหลือง ทองแดง ที่บรรจุอัฐิของปู่ย่าตายายหายไป เหลือแต่โกศที่เป็นพลาสติกสีทองและสีเงิน แต่อัฐบรรจุอยู่ภายในโกศหายไป บุคคลที่ตนสงสัยคือนายสก๊อต ชาวบ้านแสงสว่างมีบ้านอยู่หน้าวัด แต่มีพฤติกรรมเสพยาบ้า จนพูดจาไม่รู้เรื่อง มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย และเคยขึ้นมางัดกุฎิของตน ลักนาฬิกาข้อมือ พระเครื่องประมาณ 20 องค์ นำไปเร่ขาย และเคยเข้ามาลักหม้อของวัดไปขายด้วย คาดว่าจะทุบธาตุเพื่อลักโกศไปขายหาเงินเสพยา ตนรู้สึกสงสารชาวบ้านที่ไม่มีอัฐิของบรรพบุรุษและญาติ ไว้สำหรับทำพิธีในวันสำคัญของชาวอีสาน เช่นสงกรานต์ วันปีใหม่ บุญข้าวสาก ซึ่งตนได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านแล้ว
ทางด้านนายคำหมาย ศิริพร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแสงสว่าง หมู่ 1 เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพระสิริณภัชร์ สิริธโร ว่ามีคนร้ายมาทุบธาตุบรรจุอัฐิเพื่อลักโกศทองเหลือง ทองแดง โดยได้เทอัฐิผู้ตายทิ้ง ซึ่งมีชาวบ้านพบเห็นนายสก๊อต ซึ่งเป็นชาวบ้านมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนมีอาการทางจิตเวช นำกระดูกคนตายไปให้ชาวบ้าน จนทำให้ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสก๊อต แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นผู้ป่วยจิตเวช ยังไม่ถึงขั้นทำร้ายใคร แต่มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย ได้แต่บอกพ่อแม่ให้ดูแลลูก และผู้ใหญ่บ้านทำได้เพียงประกาศเสียงตามสาย แจ้งให้ชาวบ้านระมัดระวัง ช่วยกันดูแลทรัพย์สินในบ้าน และโกศของบรรพบุรุษตัวเอง อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาช่วยนำตัวไปบำบัดรักษา
ทางด้านนางฐิติพร สุระขันตี อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นแม่นายวรวัฒน์ สุระขันตี หรือสก๊อต อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า ตนมีลูก 3 คน นายสก๊อตเป็นลูกคนโต เคยไปเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปี เมื่อปลดประจำการออกมาก็เสพยาบ้า โดยมีเพื่อนในหมู่บ้าน 3-4 คน จับกลุ่มเสพยา ปี 2557 จนมีอาการหลอน เคยนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กทม. โรงพยาบาลจิตเวช จ.ขอนแก่น และโรงพยาบาล จ.เลย กินยารักษาอาการไม่เคยขาด แต่พอกลับมาบ้านได้ไม่นานก็หวนกลับไปเสพยาอีก ทำให้อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ต้องคอยระวังไม่ให้อาละวาดและทำร้ายคน
“ตนไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะหมอบอกว่าลูกป่วยเป็นจิตเวชแล้ว รักษาไม่หาย ตื่นเช้ามาก็ขอแต่เงิน คิดว่าน่าจะเอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ ถ้าไม่ให้ก็จะอาละวาด ด่าพ่อแม่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย หนักเข้าขโมยสิ่งของภายในบ้านและบ้านญาติไปขาย เพื่อหาเงินซื้อยาบ้าเสพ พวกตนต้องอยู่อย่าหวาดระแวง ทั้งสงสารลูก ทั้งอายคนในหมู่บ้านว่าลูกเสพยาจนบ้า วันก่อนลูกก็นำกระดูกมาให้ตน บอกว่าเป็นกระดูกพระพุทธเจ้า ตนก็ต้องรีบรับเอา เพราะถ้าเราไม่รับหรือโต้แย้ง ก็จะทำให้อาละวาดด่าทอ และเห็นลูกเคี้ยวกินกระดูกด้วย ตนอยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยนำตัวลูกชายไปบำบัดรักษาด้วย โดยตนยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง” นางฐิติพร เล่าทั้งน้ำตา