แม่และญาติมือกราดยิงเก็บเถ้าอัฐิกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด

เมื่อเวลา 06.10 น.วันที่ 9 ตุลาคม 2565 ที่บริเวณด้านหลังเมรุวัดใหม่หนองหิน ชุมชนหนองหิน-ร่มเย็น เทศบาลเมืองหนองสำโรง ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี นางดอกไม้ ศรีชัย อายุ 62 ปี พร้อมลูกชายและญาติ รวม 10 คน เดินทางมาทำพิธีเก็บเถ้าอัฐิของ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อายุ 34 ปี อดีตตำรวจมือกราดยิง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ก่อนยิงตัวตายพร้อมลูกเมีย

เพื่อนำอัฐิเถ้ากลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด โดยมีนายเรืองฤทธิ์ อุตรักษ์ อายุ 64 ปี สัปเหร่อ นิมนต์พระสงฆ์ 2 รูป มาทำพิธีทางศาสนา เพื่อให้ผู้ตายได้ไปสู่สุขติ โดยใช้เวลประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนการไปร่วมงานศพกับเหยื่อกรดยิง ทางแม่และญาติบอกเพียงว่า ขอกลับไปปรึกษากันก่อนว่าจะไปร่วมหรือไม่ แต่อาจจะส่งตัวแทนไป เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัยและได้รับอันตรายจากญาติผู้สูญเสีย ในสิ่งที่ลุกชายก่อเอาไว้ก่อนจบชีวิตตัวเองพร้อมครอบครัวที่บ้านพัก และจะไม่นำอัฐิเถ้าไปลอยอังคาร ซึ่งในพิธีได้มีการจัดอาหารคาวหวานใส่ถาด มาวางให้ดวงวิญญาณผู้ตาย คัดแยกอัฐิส่วนที่สมบูรณ์ชำระล้าง พรมน้ำหอมโปรยดอกไม้ จุดธูปเทียนและนำเงิน 32 เหรียญวางลงบนกองเถ้าอัฐิ เพื่อให้ผู้ตายมีครบ 32 ประการในภพภูมิชาติหน้า

นายเรืองฤทธิ์ อุตรักษ์ สัปเหร่อ เปิดเผยว่า ทำอาชีพสัปเหร่อที่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2526 รวม 39 ปีที่ผ่านมาก็เคยมีญาตินำศพมาทำพิธีฌาปนกิจแบบเร่งด่วน 1 วัน สวดอภิธรรม 1 คืน แต่ครั้งนี้เป็นการทำพิธีที่เร็วที่สุดในรอบ 39 ปี ที่ทำอาชีพสัปเหร่อเป็นต้นมา คือทำพิธีเผาศพเพียง 2 ชั่วโมง แต่พิธีกรรมต้องครบถ้วน สิ่งใหนอันไหนที่ขาดก็นำมาทดแทน อย่างเช่นเมื่อวาน หลังสวดมาติกาบังสุกุลแล้วกรวดน้ำ และวางดอกไม้จันทน์ แต่ไม่มีเพราะหาไม่ทันก็ใช้ธูปวางแทน ก็ถือว่าครบถ้วนตามตามพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งทางวัดไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าคนรวยคนจนก็ทำให้เหมือนกันทุกราย