เมื่อเวลา 17.53 น. วันที่ 18 กันยายน 2565 ขณะที่ ร.ต.อ.ธเนษฐ โชติศิริ รอง สว.สอบสวน สภ.บ้านดุง ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงถูกทำร้ายด้วยของมีคมและของแข็ง มีบาดแผลทั้งหมด 9 จุดตามร่างกายอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิต อยู่ในบริเวณไร่ข้าวโพด ท้ายบ้านสุวอ ม. 8 ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชบ้านดุง และอาสาวีอาร์กู้ภัยบ้านดุง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพนางสมบัติ มิตรมนตรี หรือน้อย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 บ้านสุวอ ม. 8 ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ อุดรธานี นอนหงายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า กางเกงวอร์มขายาวสีน้ำเงิน สวมรองเท้าบูทสีดำ ข้างกันมีถุงกระสอบพลาสติกอยู่ข้างศพ และมีกระเป๋าถือแบบผู้หญิง สีม่วง ตกอยู่ไม่ห่างกัน สภาพศพถูกของมีคมหรือของแข็งทำร้ายตามร่างกาย 9 จุด ที่ชัดเจนเป็นร่องรอยถูกแทงหน้าท้อง 2 แผล หน้าอก 1 แผล ด้านหลังอีก 1 แผล และที่บริเวณขมับศีรษะมีร่องรอยถูกของแข็งทุบหลายครั้ง จนกะโหลกแตก ส่วนทรัพย์สิน มีเงินสดประมาณ 1,700 บาท หายไป แต่โทรศัพท์มือถือแบบกดปุ่มรุ่นเก่า 2 เครื่อง ยังอยู่ในกระเป๋าถือไม่สูญหาย
น.ส.รำแพน ศรีสิงห์ หรือเล็ก อายุ 33 ปี หลานผู้เสียชีวิต เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า ผู้ตายมีศักดิ์เป็นอาสะใภ้ ผู้ตายและสามีมีอาชีพทำไร่ทำนา หลังจากแบ่งที่นามรดก ที่นาของพ่อตนเองและอาอยู่ติดกัน รวมกันหลาย 10 ไร่ จึงร่วมกันทำไร่อ้อย และแบ่งเป็นสวนแตง อีกส่วนเป็นไร่ข้าวโพด ก็คือบริเวณที่พบศพ ซึ่งเป็นอาณาเขตของพ่อตน ปกติอาทั้งสองจะพักอยู่กับลูกสาวคนโตในหมู่บ้าน จะออกมานอนเฝ้าที่กระท่อมในไร่บ้างบางครั้ง เพื่อดูแลพืชสวนและควายที่อาเลี้ยงไว้ประมาณ 10 กว่าตัว ครอบครัวตนและครอบครัวอาจะออกมาแลที่ไร่ทุกเช้า วันนี้เป็นวันอาทิตย์ครอบครัวตนออกมาตอนเช้า แล้วกลับเข้าไปในหมู่บ้าน แต่อาทั้งสองยังอยู่ที่ไร่
“กระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. อาผู้ชายยังไม่เห็นอาผู้หญิงกลับเข้ามาที่กระท่อม จึงโทรบอกลูกสาวให้ออกมาช่วยหา โทรติดต่อไปหลายครั้ง จนได้ยินเสียงเรียกเข้าอยู่บริเวณไร่ข้าวโพด ก่อนเดินตามเสียงมาและพบศพดังกล่าว อาผู้ชายจึงโทรหาแม่ของตนด้วยความฟูมฟายจนจับใจความไม่ได้ พวกตนทราบเรื่องจึงรีบออกมาดูที่ไร่ ตอนแรกคิดว่าอาผู้หญิงคงจะเป็นลมหน้ามืดหมดสติเท่านั้น แต่ก็มาพบว่าอาผู้หญิงถูกฆ่าตายแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนลงมือก่อเหตุ แต่เงินในกระเป๋าหายไป อาจจะเป็นการชิงทรัพย์ก็ได้ เสียใจมากที่อาต้องมาตายแบบนี้ อยากให้ตำรวจช่วยจับคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด ”
พ.ต.อ.จักรภพ ศรีจันทะ ผกก.สภ.บ้านดุง เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า เบื้องต้นได้สอบถามญาติทราบว่าผู้ตายได้มาเก็บข้าวโพด ปมขัดแย้งในครอบครัวไม่มีและก็ไม่พบประเด็นขัดแย้งกับคนอื่นเหมือนกัน สภาพศพโดนแทงเข้าบริเวณท้อง 3 แผล และด้านหลังอีก 1 แผล ส่วนศีรษะด้านขวาโดนของแข็งทุบจนกะโหลกยุบ ส่วนอาวุธที่ใช้ทำร้ายผู้ตายไม่พบในที่เกิดเหตุ เจอแต่มีดของผู้ตายที่ติดตัวไปด้วยเป็นประจำแต่ก็ไม่มีคราบเลือด ส่วนประเด็นในการสังหาร คาดว่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์มากที่สุด เนื่องจากลูกสาวผู้ตายบอกว่าเงินในตัวแม่หายไป 1,700 บาท ส่วนประเด็นเรื่องปัญหาส่วนตัวกับใครก็ยังไม่ตัดอยู่ระหว่างการสืบสวน
ขอบพระคุณภาพจากอาสาวีอาร์กู้ภัยบ้านดุง