เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 กันยายน 2565 ร.ต.อ.ฐิตินันท์ ศรีเชียงหวาง รองสารวัตร สอบสวน สภ.เพ็ญ ได้รับแจ้งเหตุชายถูกคนร้ายใช้อาวุธมีคมฟันเข้าที่ท้ายทอยจนเสียชีวิต เหตุเกิดอยู่บริเวณหลี่ดักปลาติดกับทุ่งนาริมถนนระหว่างหมู่บ้านโคกสว่าง-บ้านเหล่า ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี หลังจากแจ้งเหตุ พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เพ็ญ ,พ.ต.ต.ยุทธศิลป์ นามแสง รอง ผกก.สืบสวน.สภ.เพ็ญ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เพ็ญ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.อุดรธานี และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานจุดบริการเพ็ญ ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นหลี่ดักปลาที่ชาวบ้านทำขึ้นเอง พบศพนายศรัญญู ปากเมย หรือยู อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 255 ม.12 ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี มีบาดแผลขอบเรียบที่บริเวณท้ายทอยยาว 10 ซม. นอนคว่ำหน้า สวมคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนขายาวสีดำ มีผ้าขาวม้าคาดเอว สวมรองเท้าบูทยางสีดำ สะพายย่ามกระสอบ มีมีดพร้าด้ามไม้ยาวประมาณ 1 ฟุต ถุงตาข่ายใส่ปลา ตกอยู่ข้างศพ ห่างไปประมาณ 1 เมตร พบไฟฉายคาดศีรษะตกอยู่ 1 อัน บริเวณโดยรอบไม่มีร่องการต่อสู้ ไม่คราบเลือด ใกล้กันพบเพียงขวดเครื่องดื่มเกลือแร่ 2 ขวดถูกทิ้งอยู่ริมถนน และมีรถจักรยานนยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง ล้อแม็กซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของผู้ตาย จอดอยู่ริมถนน ข้างหลี่ดักปลา โดยมีญาติพี่น้องของผู้ตายและชาวบ้านที่ทราบต่างมามุงดูกันเป็นจำนวนมาก
น.ส.ไพรินทร์ ยางสร้อย หรือตาล อายุ 22 ปี ภรรยาผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 72 บ.โคกสว่าง ม.9 ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า อยู่กินกับสามีมานาน 2 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 10 เดือน อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านสามี สามีรับจ้างทั่วไป ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง หลายครั้งต้องขอเงินจากแม่มาเลี้ยงดูครอบครัว เพราะแม่มีสามีใหม่เป็นชาวต่างชาติอยู่ต่างประเทศ เมื่อคืนนี้เวลา 01.42 น. มีรุ่นน้องผู้ชายชื่อแบงค์ โทรมาบอกว่าให้หาไม้ไปทำปลอกมีดให้ ก่อนที่สามีจะกลับเข้ามาที่บ้าน และออกจากบ้านอีกครั้งประมาณ 02.00 น. คิดว่าสามีจะออกไปหาปลาที่ทุ่งนาตามปกติเหมือนทุกครั้ง จนเช้าก็ยังไม่เห็นกลับบ้าน ตนเองมัวแต่เลี้ยงลูก ตอนเที่ยงถึงมีคนมาบอกว่าสามีเสียชีวิตแล้ว สาเหตุการฆาตกรรมสามีตนเองไม่ทราบแน่ชัด สามีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร ตนเองก็ไม่รู้สาเหตุ
นางสวัสดิ์ มาตรา อายุ 60 ปี ป้าผู้ตาย เปิดเผยว่า น้องสาวมีลูกชาย 2 คน คนตายเป็นคนโต หลังจากสามีน้องสาวเสียชีวิต น้องสาวมีสามีใหม่เป็นชาวอังกฤษ น้องสาวสร้างบ้านให้หลานทั้งสองแยกกันอยู่ และมีบ้านอีกหลังหนึ่งที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แต่จะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ล่าสุด 2 เดือนที่แล้วเพิ่งจะกลับมาเยี่ยมบ้าน ตอนนี้โทรศัพท์บอกน้องสาวแล้ว อยู่ระหว่างจองตั๋วเครื่องบินกลับมาอย่างเร่งด่วน นายยูหลานคนโตไม่ได้ทำงานอะไรเป็นหลักแหล่ง ชอบออกหาปลายิงนกยิงหนูตอนกลางคืน เมื่อได้มาแล้วก็จะเอามาขายให้ชาวบ้านหรือญาติพี่น้อง หลายครั้งตนก็รับซื้อไว้ หลานชายคนนี้มีประวัติเสพยาเสพติด เท่าที่รู้ไม่ได้ค้าเสพอย่างเดียว และหลานชายเป็นคนเจ้าชู้ เคยผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว 1 ครั้ง มีอดีตแฟนสาวหลายคน มีลูกทั้งหมด 4 คน ”
น.ส.เอ๊ะ อายุ 34 ปี อดีตภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า เคยอยู่กินกับผู้ตายประมาณ 7-8 ปี มีลูกชายด้วยกัน 2 คน จดทะเบียนกันอย่างถูกต้อง แต่ต้องเลิกรากันไป 5 ปีที่แล้วตนเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาอยู่บ้านได้ไม่ได้ ต่างคนก็ต่างมีครอบครัวใหม่กันหมด แต่ตนกับผู้ตายเพิ่งจะจดทะเบียนหย่ากันได้ไม่นาน วันนี้ทราบข่าวจึงเดินทางมาดูเหตุการณ์ เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อของลูกเรา แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงมีการฆ่ากันได้โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ตนไม่ได้ติดต่อผู้ตายมานานแล้ว ไม่ทราบว่าเขามีปัญหาอะไรกับใคร ตนไม่รู้จริงๆ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด ไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก และจะเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุในการก่อเหตุที่แน่ชัด ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดใดทิ้ง ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาเป็นที่เปลี่ยว และเหตุเกิดตอนกลางคืน มีพยานพบเห็นรถจักรยานยนต์ผู้ตายจอดทิ้งไว้ตอนประมาณ 03.00 น. และมีผู้มาพบศพอีกครั้งช่วง 12.00 น. ขณะนั้นรถจักรยานยนต์ยังจอดอยู่ที่เดิม จึงลงไปดูที่หลี่ดักปลาก่อนพบศพผู้ตาย และแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ซึ่งจะได้เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป