เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 11 กันยายน 2565 พ.ต.ท.เศรษฐวิทย์ คุณเศรษฐ์ สารวัตรสอบสวน สภ.โนสูง อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งรถยนต์ปิกอัพพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่บริเวณถนนระหว่างหมู่บ้าน บ้านศรีบุญเรือง ต.บ้านตาด ไปบ้านกุดลิงง้อ ต.นาดี จึงประสานแพทย์เวรรพ.ศูนย์อุดรธานี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมสถานเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บษ 4872 อุดรธานี พลิกคว่ำหงายท้อง อยู่บริเวณป่าละเมาะข้างทาง เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ใช้เครื่องมือยกตัวรถที่ทับร่างนายอธิวัฒน์ ขุลีดี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/1 หมู่ 11 ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ออกมาไว้บนถนน สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีเหลือง นุ่งกางเกงขาก๊วยสีเขียว จากการชันสูตรของแพทย์เวร พบกระดูกซี่โครงหักเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
นายเซ็ง ขุลีดี อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 124/1 หมู่ 11 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พ่อผู้ตาย เล่าว่า เมื่อเช้านี้ตนเห็นลูกชายหุงข้าวเอาไว้ แล้วก็ออกไปข้างนอกตั้งแต่หกโมงเช้า ลูกชายบอกเพียงว่าจะออกไปดูเครื่องตัดหญ้าที่เอาไปซ่อม ปกติตนไม่ได้ทำงานอะไร มีเพียงออกไปหาอยู่หากินที่นาของตนเอง ส่วนลูกชายรับจ้างทั่วไป ไม่ได้ทำงานเป็นหลักแหล่ง เมื่อก่อนลูกชายมีครอบครัวมีลูกมีเมีย ลูกชายย้ายมาอยู่กับตนนานหลายเดือนแล้ว และไม่เห็นครอบครัวของลูกชายนานแล้ว ไม่รู้ว่าเลิกไปหรือยัง ตนก็ไม่เคยถาม พอทราบข่าวก็รีบมาที่เกิดเหตุทันที รถที่เกิดอุบัติเหตุก็เป็นรถของตน ที่เอาไว้ใช้ในครอบครัว
นายโฮม อุตมา อายุ 47 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้ตายไปซ่อมเครื่องตัดหญ้าอยู่ที่ร้านซ่อมแถวกุดลิงง้อ ก่อนมาแวะที่บ้านยายข้างบ้านตน ผู้ตายมีอาการเมาสุรา ปกติผู้ตายชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ โดยยายของผู้ตายบอกว่า ถ้าเมาก็ไม่ต้องกลับบ้านให้นอนอยู่ที่นี้ หลังจากนั้นยายก็ขึ้นไปบนห้อง ผู้ตายจึงเดินมาหาพวกตนที่นั่งเล่นกันอยู่ ผู้ตายมานั่งดื่มเหล้าด้วย 1 แก้ว กินกับแกล้มไปสองสามคำ ไม่นานผู้ตายบอกว่าจะกลับบ้าน ก่อนไปเอาเงินในรถ 30 บาทมาช่วยค่าเหล้า แล้วก็พากันแยกย้ายกลับ ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ตามรถผู้ตายมา แต่ขับตามไม่ทัน เพราะขับรถเร็วมากควันดำเต็มไปหมด จนมาเห็นรถพลิกคว่ำไปแล้ว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายขับรถไปร้านซ่อมเครื่องตัดหญ้า และได้ดื่มสุราจนเมา จากนั้นขับรถเพื่อกลับบ้านด้วยความเร็ว รถได้เริ่มเสียหลักก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ก่อนจะมาถึงทางโค้ง แล้วรถพลิกคว่ำจนร่างกระเด็นออกจากตัวรถ ก่อนถูกหลังคารถทับเสียชีวิต โดยญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ไปญาติบำเพ็ญกุศลตามประเพณี…….