เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2565 พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ หลังรับแจ้งศูนย์วิทยุ 191 ภ.จ.อุดรธานี ว่ามีเหตุชายสติไม่ดีคล้ายคนหลอนยา ถือมีดบุกเข้ามาในโรงเรียนบ้านข้าวสาร ม.4 บ.ข้าวสาร ถ.มิตรภาพอุดร-ขอนแก่น (ขาเข้าอุดรธานี) ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี คุณครูและเด็กนักเรียนหวาดกลัวจะได้รับอันตราย คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว-ฟ้า กางเกงยีนขายาวสีดำ ขณะนี้ได้วิ่งหลบหนีออกไปทางหน้าโรงเรียน ส่วนเด็กนักเรียน 66 คน และครู 5 คน ได้พาเด็กนักเรียนขึ้นไปหลบอยู่ในห้องบนชั้น 2 อาคารเรียน และปลอดภัยทุกคน
หลังรับแจ้งพบชายผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ศาลาพักผู้โดยสารริมทาง ห่างจากโรงเรียนบ้านข้าวสารประมาณ 500 เมตร ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวและสอบถาม แต่พูดจาวกไปวนมาคล้ายคนสติไม่ดี ก่อนควบคุมตัวไปที่โรงเรียนฯ โดยครูยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน จากการสอบสวนทราบชื่อ นายดนัย ทากะโก หรือก๊อต อายุ 25 ปี ชาวบ้านหนองแวง ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี และให้การว่าไม่มีอาวุธมีด จะมีก็อยู่ที่บ้านไม่ได้พกมาด้วย และเข้าไปสูบบุหรี่ในโรงเรียนเท่านั้น โดยไม่ได้ใช้อาวุธมีดมาก่อเหตุจี้เด็กนักเรียนเป็นตัวประกันหรือทำร้ายแต่อย่างใด และไม่ได้เสพยาบ้าด้วย กำลังจะเดินกลับบ้านก็มาถูกตำรวจจับกุมตัว
น.ส.วนิดา เปรมปรีดิ์ อายุ 25 ปี ครูผู้ช่วยโรงเรียนบ้านข้าวสาร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงสายวันนี้ ผู้ก่อเหตุพยายามปีนรั้วเข้ามาในโรงเรียน 3 ครั้ง ครั้งแรกแม่ครัวในโรงเรียนเห็นกำลังพยายามจะปีนรั้วข้างโรงเรียน และกวักมือเรียกนักเรียนให้เข้าไปหา ครั้งที่สองผู้ก่อเหตุเดินอ้อมเข้ามาทางด้านหน้าโรงเรียน และทำท่าใช้มือปาดคอใส่เด็กนักเรียนชั้น ป.3 ตกใจกลัว และวิ่งมาบอกครูจึงวิ่งออกไปดูพบคนร้ายวิ่งหลบหนีไป จึงรวบรวมเด็กนักเรียนขึ้นไปหลบอยู่ในห้องบนชั้นสองของอาคารเรียน และครั้งที่ 3 ในกล้องวงจรปิดเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้กับอาคารเรียน แต่ระบบอินเตอร์เน็ตกล้องขัดข้องบันทึกภาพไว้ไม่ได้ จึงเดินเข้าไปถามเขาว่ามาทำอะไร เขาบอกว่าจะมารับเด็กนักเรียน แต่ไม่รู้ชื่อ ครูจึงส่งสัญญาณให้นักเรียนขึ้นไปหลบบนอาคาร ก่อนที่คนร้ายจะเดินหลบหนีไป
ด้าน พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนคนร้ายในเบื้องต้นพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง และยังไม่ชัดเจนว่าเขามีอาการหลอนยาเสพติด หรือมีอาการทางจิตเวช หลังจากนี้จะได้ควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเขาเสพยาหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นเขายอมรับว่าเสพยาจริงแต่ไม่รู้ว่าเสพไปมากน้อยเพียงใด รวมทั้งการบุกรุกสร้างความหวาดกลัวให้ครูและเด็กนักเรียน จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี เนื่องจากทางครูในโรงเรียนมีสติ และแจ้งเหตุได้รวดเร็ว และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีเยี่ยม