ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ที่ศาลปกครองอุดรธานี ถ.มิตรภาพ(อุดรธานี-หนองคาย) บ.เม่น ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี ร.ต.อ.ณรงค์เดช ผลจันทร์ อายุ 63 ปี อยู่เลขที่ 179 ม.7 บ.จำปา ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมตัวแทนชาวบ้าน 17 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนกลิ่นเหม็นจากโรงงานยางแท่ง 2 โรง ริมถนนนิตโย บ.จำปา ต.หนองนาคำ ยื่นฟ้องหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อศาลปกครองอุดรธานี ขอให้ปิดโรงงานยางแท่ง 1 ใน 2 โรง
ร.ต.อ.ณรงค์เดช ผลจันทร์ อายุ 63 ปี เปิดเผยว่า ครอบครัวตนเอง ตลอดจนชาวบ้าน บ.จำปา และใกล้เคียง ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานยาพาราแท่ง ต่อเนื่องมามากกว่า 8-9 ปีแล้ว ตั้งแต่ยังรับราชการตำรวจจนเกษียณ ชาวบ้านได้ร้องเรียนตามขั้นตอน ตั้งแต่หน่วยงานรัฐในพื้นที่ ไปจนถึงส่วนกลาง แม้แต่นายกรัฐมนตรี รวมไปถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ดูเหมือนว่าจะมีการแก้ไขปัญหา แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่ได้แก้ไข ทั้งที่ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมาก หลักฐานต่าง ๆก็ชัดเจน
“ ครอบครัวผมได้ผลกระทบเริ่มจากภรรยา ทั้งระบบทางเดินหายใจ และผิวหนังเกิดอาการแพ้ จากนั้นผมและหลานก็ได้รับผลกระทบตามมา ทำให้หลานที่คลอดมาใหม่อีกคน ผมไม่ได้ให้หลานมาอยู่บ้านหลังนี้ ชาวบ้านคนอื่นเข้าก็เดือดร้อน แต่สาธารณสุข หรือโรงพยาบาลในอุดรธานี ก็ไม่ยอมชี้ชัดว่าสาเหตุเกิดจากอะไร รวมทั้งชาวบ้านเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ในพื้นที่ บ.จำปา และ บ.โนนสะอาด ต.หนองนาคำ ที่ผ่านมาไม่กี่ปีรวมแล้ว 15 ราย ล่าสุดภรรยาตัดสินใจเข้ารับการรักษาจากแพทย์ รพ.รัฐในกรุงเทพฯ ระบุว่าภรรยาป่วยจากแพ้ ไอน้ำกรดที่ใช้หยดยางให้แข็งตัว ”
ร.ต.อ.ณรงค์เดช ผลจันทร์ ตอบข้อซักถามว่า ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองวันนี้ เป็นร่างฟ้องประมาณ 20 หน้า และเอกสารประกอบราว 140 หน้า ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเอกสารทางราชการ รพ.สต. , สาธารณสุข , รพ. , อุตสาหกรรม , กรมควบคุมมลพิษ และอื่น ๆ ที่เก็บรวบรวมไว้ตั้งแต่เริ่มตรวจสอบ 4 ปี 2 เดือน ที่ระบุไว้ชัดว่าตรวจพบกลิ่นเหม็น เกินกว่ามาตรฐานกลิ่นโรงงานอย่างไร ตลอดจนสารพิษต่าง ๆ รวมทั้งสารก่อมะเร็งที่พบเพิ่มมากขึ้น โดยการฟ้องครั้งนี้ขอให้ปิด 1 โรงก่อน อีกโรงรอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจอีกครั้ง ….
