หลังจาก ศบค. ได้มีการประกาศปลดล็อคในการผ่อนคลายสถานบริการ สถานบันเทิงให้สามารถเปิดบริการได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของมาตราการควบคุม ในส่วนของสถานธนานุบาล 1 เทศบาลนครอุดรธานีพบว่า ที่ผ่านมากลุ่มนักดนตรีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่สามารถทำการแสดงได้ ไม่มีรายได้มาเป็นเวลานาน ได้นำเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ มาจำนำในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ต่างเดินทางมาไถ่ถอนกันเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปประกอบอาชีพและนำไปสร้างรายได้
นายจิรภัทร ลิปตวัฒนกุล ผู้ตรวจการสถานธนานุบาล เขต 34 เทศบาลนครอุดรธานี 1 เปิดเผยว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมามีกลุ่มนักดนตรีมาจำนำกันเป็นจำนวนมากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา และตอนนี้สถานบริการ สถานบันเทิงได้เริ่มเปิดให้บริการแล้วก็ได้มีนักดนตรีที่ได้นำเครื่องดนตรีมาจำนำ และได้มาทยอยไถ่ถอนกันออกไปค่อนข้างมาก จาก 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เหลืองเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีชุดเล็ก ชุดใหญ่ เครื่องดนตรีสากล เครื่องดนตรีไทย ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงรับจำนำจะรับจำนำเครื่องดนตรีบางชนิดเท่านั้น แต่ก็ต้องเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการอะลุ่มอล่วย เพื่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
“ จะราคาถูกหรือแพงก็ต้องรับไว้ก่อนอย่างเช่น เครื่องบดปลาหมึกย่าง ครกหิน ก็ต้องรับตามนโยบายของคณะผู้บริหารเทศบาลนครอุดรธานี นอกจากนี้มีผู้ใหญ่ใจดีที่ไม่ประสงค์จะออกนามได้ มอบเงินให้โรงรับจำนำของเราเป็นจำนวนเงิน 3 หมื่นบาท ทำการไถ่ถอนให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆ โดยการคัดเลือกของคณะผู้บริหารเทศบาลนครอุดรธานี สำหรับอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ จำนำเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 25 สตางค์ ส่วนที่เกินจาก 5,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2565 ในส่วนเครื่องดนตรีที่เหลือที่โรงรับจำนำ ลูกค้าหลายคนที่มาต่อดอกเบี้ย บอกว่าขอไปหารายได้ก่อน เพราะสถานบันเทิงเปิดแล้ว จะรีบทำงานหาเงินกลับมาไถ่ถอน “
นายทรงศักดิ์ พรมภา หรือกี้ อายุ 33 ปี นักดนตรีชาว จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เล่นดนตรีอาชีพมาประมาณ 10 ปี รายได้ต่อเดือนประมาณ 2 หมื่นบาท หลังจากโควิด-19 ระบาด เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีรายได้เลย เรามีครอบครัวที่ต้องดูแลจึงจำเป็นต้องเอาเครื่องดนตรีไปจำนำ เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัว หลังจากมีการปลดล็อกให้มีการเล่นดนตรีกลางคืน ก็รู้สึกดีใจมากที่สามารถมีอาชีพ มีรายได้ กลับมาเลี้ยงดูแลครอบครัวได้เหมือนเดิม และต้องขอบพระคุณผู้ประกอบหลายท่านที่เห็นใจนักดนตรีที่ให้ทุนทรัพย์มาไถ่ถอนได้ก่อนบ้างในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อจะได้มีอุปกรณ์ทำมาหากิน เราก็ได้มีโอกาสสร้างรายได้ต่อไป
“ จริงๆแล้วดนตรีมันไม่มีพิษภัยอะไรอยู่แล้ว การเล่นดนตรีกลางคืนเราอยู่บนเวทีเราก็เซฟตัวเองอยู่แล้ว ลงจากเวทีมาเราก็ใส่หน้ากาอนามัย เราดูแลตัวเองอยู่ตลอด ที่สุดแล้วขอบพระคุณรัฐบาลที่ให้ความสนใจอาชีพกลางคืนอย่างพวกเรามากขึ้น ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้ อยากให้เพียงแค่เห็นความสำคัญของอาชีพกลางคืน สถานประกอบการ ร้านอาหาร เพราะเราปิดก่อนแล้วมาเปิดทีหลัง เราปฏิบัติตามกฎกระทรวงสาธารณสุขมาตลอด เราให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอยู่แล้ว “