เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 เมษายน 2565 ขณะที่ ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ ร.ต.ท.บัญชา สาระปัญญา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี มีเหตุชายคุ้มคลั่งอาละวาด จะเผาบ้านเรือนชาวบ้าน ถือมีดข่มขู่ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา และเผารถจักรยานยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหาย เหตุบริเวณที่ซอยโรงฆ่าสัตว์ บ้านดอนภู่ หมู่ 10 ต.หนองนาคำ จึงนำกำลังสายตรวจ 191 รุดไปที่เกิดเหตุ
พบชายทราบชื่อภายหลังนายสมชาย เต่าทอง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 356 หมู่ 10 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี สวมกางเกงขาสั้น สีดำ ไม่สวมเสื้อ เผารถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และมีอาการคุ้มคลั่งอาละวาด ร้องเสียงดังเอะอะโวยวาย ในมือถือมีดพร้ายาวประมาณ 1 เมตร กวัดแกว่งไปมา พอเห็นตำรวจได้หลบหนีเข้าไปในบ้านเลขที่ 356 ห่างจากจุดเกิดเหตุ 50 เมตร ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ประตูรั้วเป็นสังกะสี แต่มีสายไฟฟ้าต่อจากบ้านใส่ประตูสังกะสี และมีกระแสไฟฟ้า
ตำรวจได้ดึงสายไฟออกจากประตูสังกะสี พร้อมกับนำกำลังตำรวจ 10 นาย ถือไม้ง่ามเข้าไปเตรียมจับกุม แต่นายสมชายยังส่งเสียงดังอาละวาดหลบอยู่ในบ้าน ตำรวจได้เจรจาเกลี้ยกล่อมให้นายสมชายออกมามอบตัว นายสมชายได้ถือมีดพุ่งออกมาจากประตูมายืนหน้าบ้าน ตำรวจไม่รอช้าเข้าไปจับกุม แต่นายสมชายซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ได้ดิ้นขัดขืนการจับกุม โดยมีชาวบ้านจำนวนมากมายืนมุงดู พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ตำรวจ “เอามันเลย เอามันเลย” ตำรวจใช้ไม้ง่ามฟาดมือจนมีดหลุด ก่อนใช้ไม้ง่ามควบคุมตัวไว้ได้ ชาวบ้านได้กรูเข้าประชาทัณฑ์นายสมชาย โชคดีที่ตำรวจเข้าห้ามปรามเอาไว้ได้ทัน
น.ส.สมพัด ตรีศาสตร์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้านขายเนื้อสดซึ่งอยู่ห่างจากบ้านนายสมชายประมาณ 50 เมตร เล่าว่า นายสมชายไม่ทำงาน เมียเป็นแม่ค้าขายผักเลี้ยงดูครอบครัว 4 คน นายสมชายบังคับให้เมียซื้อยาบ้ามาให้เสพทุกวัน ถ้าไม่ซื้อมาให้ก็จะทำร้ายทุบตีเมีย พอเสพยาบ้าเมาก็จะอาละวาดชาวบ้าน ทั้งกลางวันกลางคืน เวลาชาวบ้านเดินผ่านจะเอามีดไล่ฟัน แม้กระทั่งเด็กเล็กก็ไม่เว้น กลางคืนจะยิงหนังสะติ๊กใส่บ้าน เอาถังแก๊สโยนใส่บ้านคนอื่นจะเผา จนชาวบ้านไม่ได้หลับไม่ได้นอน เดือดร้อนทุกคน
ก่อนเกิดเหตุ ขณะนอนอยู่ได้บ้าน ก็ต้องตกใจตื่น เพราะได้ยินเสียงนายสมชายอาละวาด อยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงลุกออกมาดู ก็พบนายสมชายถือมีดเข้ามาเปิดถังแก๊สจะเผาบ้าน สามีตนเข้าไปห้ามแต่นายสมชายใช้มีดฟัน สามีเข้าไปยื้อแย่งมีด ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่มือ และโรคความดันกำเริบเพราะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ตนจึงพาส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี พอชาวบ้านขี่จักรยานยนต์ผ่านมา ก็ไล่ฟันแล้วเผารถจนเสียหายทั้งคัน
“ รู้สึกเบื่อมาก ทนไม่ไหวแล้ว เพราะรู้สึกชีวิตไม่มีคุณค่า เกิดเหตุก็แจ้งตำรวจตลอด เมื่อถูกจับและขัง 10 วัน ก็ปล่อยออกมา ก็อาละวาดอีก คนอื่นทำอะไรไม่ได้ ตัดต้นไม้ทำสะอาดบ้านเสียงดังไม่ได้ จะหงุดหงิดเดินถือมีดออกมาอาละวาดไล่ฟัน ชาวบ้านในซอยกว่า 20 หลังคาเรือนอยู่ไม่มีความสุข”
นายประยุทธ กงบุราณ อายุ 32 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่โดนเผา เล่าว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ เพื่อมาซื้อเนื้อที่ร้านเกิดเหตุ พบนายสมชายอาละวาดเอามีดฟัน ตนจึงจทิ้งรถจักรยานยนต์วิ่งหลบหนีเอาตัวรอด นายสมชายได้เอาน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผารถจนไหม้เสียหายทั้งคัน ซึ่งนายสมชายเสพยาบ้าเมาแล้วคุ้มคลั่งอาละวาดเป็นประจำ
น.ส.เอ นามสมมติ ชาวบ้านเล่าว่า นายสมชายเคยเป็นคนงานที่บ่อขยะเทศบาลนครอุดรธานี ชอบเสพยาบ้า เมื่อเมาก็อาละวาดละลานชาวบ้านประจำ ชาวบ้านภายในซอยนี้เดือดร้อนทุกหลังคาเรือน นายสมชายบังคับให้เมียไปซื้อยาบ้ามาให้เสพ ถ้าไม่ซื้อให้ก็จะโดนซ้อม อาละวาด ตอนนี้เมียหนีไปอยู่บ้านญาติ เช้าวันนี้ นายสมชายได้ถือมีดพร้าเดินมาร้านขายเนื้อ มาเปิดถังแก๊สแล้วขู่ฆ่าคนในบ้านให้หมด ชาวบ้านต้องวิ่งหนี เพราะถ้าหนีได้ก็คือรอด รู้สึกดีใจมากที่ตำรวจมาจับไปดำเนินคดี
ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน พบมีดพร้า มีดสปาต้า มีดดายหญ้า หนังสติ๊ก จึงได้ควบคุมตัวพร้อมอาวุธมีดไปโรงพัก และตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ทำให้เกิดความกลัว หรือตกใจด้วยการข่มขู่ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่” ซึ่งเป็นเหตุที่เกิดซึ่งหน้า ส่วนข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น” ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับนายสมชายต่อไป